โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use projects)โปรเจ็กต์ใหญ่ในกรุงเทพและปริมณฑล ที่สร้างเสร็จแล้วและกำลังก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน
การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส หรือ mixed use development เป็นที่นิยมในหมู่ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่หลายรายอันเนื่องมาจากที่ดินในกรุงเทพฯ ตามแนวรถไฟฟ้า และหัวเมืองชั้นในมีพื้นที่เหลือน้อยลงและราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้การพัฒนาอสังหาฯ เพื่อก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดประเภทผสมผสานจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทในหลายๆปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแนวคิดในการรวมพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่สำหรับการพาณิชย์เข้าอยู่ในสถานที่เดียวกัน โคยมีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ทีในปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่น่าจับตามองหลายแห่งมานำเสนอ
โครงการมิกซ์ยูสที่เปิดบริการในปี 2561
ICONSIAM
แลนด์มาร์กแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เปิดให้บริการแล้ว เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา เป็นโครงการขนาดใหญ่บนพื้นที่ 750,000 ตร.ม แบ่งเป็น ไอคอนสยาม 500,000 ตร.ม. และไอคอนลักซ์ 250,000 ตร.ม. ที่รวบรวมแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกมาไว้ด้วยกันเป็น Flagship Stores ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและคอนโดมิเนียมระดับไพร์ม 2 อาคาร คือ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม ความสูง 70 ชั้น และ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล ความสูง 52 ชั้น
พื้นที่สาธารณะ Community Space ริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดใหญ่กว่า 10,000 ตร.ม. และห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่จากประเทศไทยญี่ปุ่น “ทาคาชิมายะ” มีพื้นที่ 35,000 ตร.ม. 7 ชั้น มีแบรนด์จากญี่ปุ่นชื่อดังมากกว่า 100 แบรนด์ จำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
พื้นที่ Co Creation Space คอนเซปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทยที่นำเสนอสินค้าและวัฒนธรรมของท้องถิ่นจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ
ตัวโครงการเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีไอคอนสยามที่เอกชนผู้พัฒนาโครงการ สนับสนุนการสร้างระบบขนส่งมวลชนสาธารณะเพื่อช่วยลดปัญหาการจราจร นอกจากนี้ยังมีท่าเรือขนาดใหญ่ 4 ท่าในโครงการรองรับการสัญจรทางเรือ เพื่อยกระดับการเดินทาง ทางรถ ราง เรือ เข้าด้วยกัน
ภาพจาก : brandbuffet.in.th
ภาพจาก : Khaosod.co.th
โครงการมิกซ์ยูสที่จะสร้างแล้วเสร็จในปี 2562
WHIZDOM 101
โครงการมิกซ์ยูสจากบริษัท Magnolias Quality Development Corporation บนถนนสุขุมวิท เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี บนพื้นที่ 43 ไร่่ประกอบไปด้วยคอนโดมิเนียม ออฟฟิศ รีเทล และสปอร์ตคลับ มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโซนพื้นที่ที่อยู่อาศัย 17 ไร่ ก่อสร้างโครงการ Whizdom Connact และ Whizdom Essence อีกส่วนคือโซนพื้นที่เชิงพาณิชย์อีก 26 ไร่แบ่งเป็นอาคารสำนักงานพื้นที่รวม 70,000 ตร.ม. และรีเทล 20,000 ตร.ม. และพื้นที่สปอร์ตคลับ อีกทั้งภายในโครงการมีพื้นที่สีเขียวคิดเป็น 30% ของโครงการมีทางจักรยานและลู่วิ่งออกกำลังกายยาวกว่า 1.3 ก.ม.
จัดสรรพื้นที่กว่า 35% ภายในโครงการให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ เปรียบเสมือนเป็นที่พักผ่อนจากการทำงาน ภายใต้แนวคิด Shared Value ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
นอกจากนี้ยังมีส่วนของ Hillside Town กับ 24 Hours Street ซึ่งจะเป็นถนนร้านค้า 24 ชั่วโมงที่จะดึงดูดคนทำงานได้ 24 ชั่วโมง โดยในปัจจุบันโครงการ Whizdom 101 เปิดให้บริการบางส่วนแล้ว
ภาพจาก : Forbes Thailand
ภาพจาก : Forbes Thailand
SINGHA COMPLEX
โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่จาก Singha Estate พัฒนาขึ้นบนที่ดิน 11 ไร่ บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี ถือเป็นทำเลยอดนิยมใจกลางย่านธุรกิจ CBD ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 4,255 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน) เป็นรูปแบบ Mixed-use Commerical Complex ที่ออกแบบตามแนวคิดเชื่อมโยงทุกการใช้ชีวิตตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างลงตัว
ตัวอาคารมีความสูง 42 ชั้น ประกอบไปด้วย พื้นที่สำนักงานระดับไฮเอนด์ อาคารรีเทลสูง 4 ชั้นที่มีทั้งร้านอาหารชื่อดังและซุปเปอร์มาเก็ต อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตด้วยแนวคิดที่ออกแบบโครงการให้ใช้สอยได้ประโยชน์สูงสุดด้วย Co-working space หรือพื้นที่นั่งพักผ่อน ทำกิจกรรม พร้อมฟรีซุปเปอร์ไวฟาย และส่วนของลักซูรี่คอนโดมิเนียมภายใต้ชื่อ The ESSE โครงการนี้ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลัก เช่นรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีเพชรบุรี ใกล้ท่าเรือด่วน คลองแสนแสบ ท่าเรืออโศก และแอร์พอร์ตเรลลิงค์สถานีมักกะสัน โดยในปัจจุบันเริ่มเปิดให้บริการในส่วนของรีเทล 4 ชั้น และพื้นที่สำนักงาน 27 ชั้น และพื้นที่จอดรถ 12 ชั้น ส่วนที่ยังก่อสร้างอยู่นั้นเป็นส่วนของที่พักอาศัย
ภาพจาก : Singha Estate
SAMYAN MITRTOWN
สามย่านมิตรทาวน์ โปรเจกต์มิกซ์ยูสใหญ่ใจกลางเมือง มูลค่าโครงการกว่า 8,500 ล้านบาท บนหัวมุมถนนพญาไท พระราม 4 ติดรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน โดยผู้พัฒนา บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ เป็นทำเลจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และอาคารสำนักงาน ตั้งเป้าเพื่อผสมผสานไลฟ์สไตล์ทั้งวัยเรียนและวัยทำงานเข้าด้วยกันบนพื้นที่เดียว มีพื้นที่ใช้สอยรวม 222,000 ตร.ม. ประกอบไปด้วย
โซนรีเทล สูง 6 ชั้น พื้นที่ให้เช่ารวม 36,000 ตร.ม. หรือคิดเป็น 30% ของโครงการ โดยออกแบบให้ พื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานโซนอาคารสำนักงานเกรดเอ สูง 31 ชั้น พื้นที่รวม 48,000 ตร.ม. หรือคิดเป็น 30% ของโครงการ ซึ่งจะพัฒนาเป็นอาคารที่ใช้งานโดยใช้ระบบอัจฉริยะ เข้ามาเชี่อมโยงกับอุปกรณ์ในอาคาร
โซนคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ สูง 33 ชั้น คิดเป็น 15% ของโครงการ โดยแยก 2 ส่วนออกจากกันเพื่อความเป็นส่วนตัว โครงการมีกำหนดที่จะเปิดให้บริการปลายปี 2562
ภาพจาก : Samyan mitrtown
โครงการมิกซ์ยูสที่จะสร้างแล้วเสร็จในปี 2565
548 Ploenchit
โครงการลักซูรี่ขนาดใหญ่จากบริษัทไรมอนแลนด์ บนถนนเพลินจิต ที่ดินขนาด 6 ไร่ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ตรงข้ามกับห้างเซ็นทรัลเอมบาสซี่ อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิต ซึ่งถือเป็นทำเลทอง ตัวโครงการจะถูกพัฒนาให้ เป็น Super Tower ใจกลางเพลินจิต ซึ่งจะประกอบไปด้วย
• อาคารสำนักงานหรู
• พื้นที่เชิงพาณิชย์
โดยมีพื้นที่รวม มากกว่า 100,000 ตารางเมตร อีกทั้งยังออกแบบให้ประหยัดพลังงานตามมาตรฐาน LEED อีกด้วย คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2565
ภาพจาก : Propholic
THE FORESTIAS
โปรเจ็กต์มิกซ์ยูสยักษ์ใหญ่ย่านบางนาจากบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตั้งอยู่บนบริเวณถนนบางนาตราด พื้นที่กว่า 300 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 90,000 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ Image Happiness นับเป็นโมเดลแรกของโลกที่ครบวงจรทั้งที่อยู่อาศัย พื้นที่ค้าปลีก อาคารสำนักงาน ศูนย์สุขภาพ สถานศึกษา อาคารนวัตธรรม พื้นที่กิจกรรมสำหรับชุมชน พร้อมทั้งการสร้างระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ได้แก่
50 Shares of Nature มีพืนพันธุ์รวมกันกว่า 38 สายพันธ์ุ และสัตว์กว่า 120 สายพันธุ์ โดยในโครงการจะมีป่าทึบ ป่าเพื่อผู้อยู่อาศัย ป่าสำหรับผจญภัย และพาวิลเลี่ยนสไตล์ธรรมชาติ
Connecting 4 Generations แบ่งพื้นที่ให้เหมาะสำหรับคนถึง 4 รุ่น
Community of Dreams การจัดสรรพื้นที่เพื่อทำให้เกิดรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างหลากหลาย เช่น พื้นที่พักผ่อน พี้นที่ทำกิจกรรม สวนศึกษาธรรมชาติ
Sustainnovation for Well-being การใช้เทคโนโลยีและนวัตธรรมเพื่อความยั่งยืน
โครงการมิกซ์ยูสที่จะสร้างแล้วเสร็จในปี 2566
THE PARQ
โครงการเดอะ ปาร์ค The PARQ โครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูสที่ล้ำสมัยที่สุด พัฒนาโดยบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และบริหารงานโดยบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท บนอยู่หัวมุมถนนพระราม 4 ตัดกับถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
คอนเซ็ปต์ในการดีไซน์โครงการได้แก่
Life Well Balanced การคำนึงถึงสภาพแวดล้อม
Strategic Location ตั้งอยู่บนทำเลที่ดี
Effortless Connected เชื่อมต่อไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวก
Sustainable Future ลดพลังงานในอาคาร ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หมุนเวียนแทนเน้นความยั่งยืนเพื่ออนาคต
ประกอบไปด้วยพื้นที่สำนักงานเกรดเอ 60,000 ตารางเมตร ซึ่งโครงการแรกในไทยที่ออกแบบตามมาตรฐานทั้ง LEED Gold และ WELL พื้นที่ร้านค้าปลีกระดับพรีเมี่ยม ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์อาหาร บนพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งมากกว่า 7,000 ตารางเมตร และสวนลอยฟ้ากลางแจ้งขนาดพื้นที่รวมกว่า 3,400 ตารางเมตร
นับเป็นการผลึกกำลังกับโครงการต่างๆ ของกลุ่มทีซีซีในพื้นที่โดยรอบโครงการ ทั้งอาคาร FYI Center และศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพทำเลให้เป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่และศูนย์กลางการประชุมและการจัดแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ โดยในปลายปี 2562 คาดว่าจะสามารถให้บริการในเฟสแรกได้
BANGKOK MALL
หนึ่งในโครงการขนาดใหญ่จากเดอะมอลล์กรุ๊ป บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ เป็นโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย มูลค่าการลงทุน 20,000 ล้านบาท บนทำเลบางนา ติดถนนสุขุมวิท ภายในโครงการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัว ประกอบไปด้วย
ห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต
แบงค็อก อารีนา ฮอลล์ ความจุ 16,000 ที่นั่ง
สวนสนุก
สวนน้ำ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
อาคารที่พักอาศัย 3 อาคาร
อาคารสำนักงานและโรงแรม
สถานศึกษา
สถานีขนส่งผู้โดยสารสายตะวันออก
รูปแบบโครงการเป็นแบบ City within the City หรือเมืองในเมืองที่สมบูรณ์แบบที่สุดด้วยพื้นที่โครงการมากกว่า 650,000 ตารางเมตร เพื่อให้เป็นศูนย์กลางแห่งความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุด ภายในปี 2563 คาดว่าจะเปิดให้บริการในเฟสแรกได้ ซึ่งเป็นส่วนของอาคารสูง 47 ชั้น
โครงการมิกซ์ยูสที่จะสร้างแล้วเสร็จในปี 2567
DUSIT CENTRAIL PARK
โรงแรมดุสิตธานี เดิมกำลังจะถูกพัฒนาใหม่ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ บริเวณหัวมุมถนนพะราม 4 ตัดถนนลีลมตรงข้ามกับสวนลุมพินี ภายใต้การร่วมทุนของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้าขึ้นเป็นแลนด์มาร์คอีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพ
โดดเด่นด้วยการออกแบบเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทย ผสานเข้ากับมาตรฐาน แบ่งเป็น 3 อาคาร โดยมีความสูง 40 ชั้น 78 ชั้นและ 46 ชั้น ซึ่งจะประกอบไปด้วย โรงแรมดุสิตธานีแห่งใหม่ อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก งบลงทุนโครงการกว่า 36,000 ล้านบาท
มีแผนที่จะเปิดส่วนที่เป็นศูนย์การค้าและโรงแรมดุสิตธานีโฉมแห่งในปี 2564 – 2565 และจะเปิดให้บริการทั้งโครงการได้ในปี 2567
ภาพจาก : Skyscrapercity.com
โครงการมิกซ์ยูสที่จะสร้างแล้วเสร็จในปี 2568
ONE BANGKOK
แลนด์มาร์คแห่งใหม่ระดับโลก จากการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท TCC Asset และบริษัท Frasers Property Houldings มูลค่าการลงทุนโครงการมากกว่า 120,000 ล้านบาท นับเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย ส่งเสริมให้เป็นเมืองศูนย์กลางของอาเซียนและตอบโจทย์ทุกความต้องการ โครงการวันแบงค็อกพัฒนาภายใต้แนวคิดตามหลัก การสร้างเมืองแห่งความครบครันเพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
แนวคิดให้คนเป็นศูนย์กลาง ( People – Centric )
ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ( Green Sustainability )
การใช้ชีวิตเมืองอย่างชาญฉลาด ( Smart City Living )
อีกทั้งยังคำนึงถึงเรื่องความหลากหลายของการใช้ประโยชน์ของพื้นที่และงานสถาปัตยกรรมเป็นหลัก เพื่อให้เป็นสถานที่ที่ทุกคน
สามารถเข้าถึงได้
พื้นที่โครงการ 104 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง 50 ไร่ ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงานเกรดเอมาตรฐาน LEED* และ WELL* 5 อาคาร โรงแรมหรูที่มุ่งเน้นบอกโจทย์ไลฟ์สไตล์ 5 โรงแรม ที่พักอาศัยระดับ Ultra Luxury 3 อาคาร ร้านค้าปลีกและพื้นที่ทำกิจกรรมที่หลากหลาย พื้นที่กิจกรรมและศิลปะวัฒนธรรมขนาด 10,000 ตารางเมตร และทางเดินที่กว้างกว่า 40 เมตร
ที่ร่มรื่นล้อมรอบโครงการ
