1 ใน 4 ของผู้ซื้อที่พักอาศัยทั่วโลกมีแนวโน้มจะย้ายบ้านในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อชาวไทยมีการเปลี่ยนแปลง

2521

ไนท์แฟรงค์ลอนดอนเผยแบบสำรวจผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก (Global Buyer Survey) ถึงเรื่องผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และผลสำรวจทัศนคติของผู้ซื้อที่พักอาศัยทั่วโลก การสำรวจนี้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของลูกค้ากว่า 700 รายใน 44 ประเทศ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้:

  • สหราชอาณาจักร สเปน และฝรั่งเศสเป็นประเทศ 3 อันดับแรกสำหรับกลุ่มผู้ซื้อที่วางแผนจะย้ายที่พักอาศัยไปต่างประเทศ หลังโควิด-19 สิ้นสุดลง
  • การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพกลายเป็นสิ่งจูงใจที่สำคัญอันดับสองในการเลือกซื้ออสังหาฯ
  • ผู้ซื้อคาดว่าราคาอสังหาฯจะปรับลดลงในช่วง 12 เดือนหน้า โดย 53% ของผู้ตอบแบบสำรวจบอกว่างบของพวกเขายังคงเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นตั้งแต่มีวิกฤตเกิดขึ้น
  • กว่า 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสำรวจมีแนวโน้มที่จะซื้อบ้านหลังที่สองมากขึ้น เนื่องจากไวรัสโควิด-19
  • กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจเดินทางไปต่างประเทศมาแล้ว และวางแผนจะเดินทาง ภายในช่วงสามเดือนหลังการเปิดประเทศ

มร. เคท เอเวอร์เรตต์-เอเลน หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านที่พักอาศัยระหว่างประเทศของไนท์แฟรงค์ กล่าวว่า “วิกฤตการณ์นี้ได้เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน ทำให้บ้านกลายเป็นศูนย์กลางการทำงาน ออกกำลังกาย การเรียนรู้ การติดต่อทางสังคม และการพักผ่อน

ความต้องการที่จะขยายที่พักอาศัย ประกอบกับผู้คนมีเวลาคิดทบทวนการใช้ชีวิตและการใช้พื้นที่ของพวกเขามากขึ้น จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังการปลดล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลต่อกระทบต่อตลาดอสังหาฯ ทั่วโลก

แบบสำรวจเป็นไปตามการคาดการณ์ อย่างเช่น ความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้านพื้นที่กลางแจ้งและโฮมออฟฟิต อย่างไรก็ตามวิธีการจัดการกับโควิด-19 ของรัฐบาลประเทศต่างๆกลายเป็นประเด็นหลักสำหรับผู้สนใจซื้อบ้านหลังที่สอง

ความตั้งใจซื้ออสังหาฯในอนาคต

1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสำรวจแสดงให้เห็นว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะย้ายบ้านในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยส่วนใหญ่มองหาที่พักอาศัยในพื้นที่เดิม 40% และ 26% ตั้งใจจะย้ายที่อยู่ไปในพื้นที่ใหม่ภายในประเทศ และ 34% กำลังพิจารณาที่จะซื้ออสังหาฯในต่างประเทศ

Advertisement

สหราชอาณาจักร สเปน และฝรั่งเศสเป็นประเทศอันดับต้นๆสำหรับผู้ที่มองหาที่พักอาศัย ตามมาด้วยออสเตรเลีย แคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา โดยทุกประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดี เสถียรภาพทางการเมือง ค่าเงินที่มั่นคง ระบบการศึกษาที่ดี และสามารถเข้า-ออกประเทศได้ง่ายในสถานการณ์ปกติ นอกจากนี้นิวซีแลนด์ โปรตุเกส มอลตา และนอร์เวย์ก็มีความต้องการไม่แพ้กัน

การยกระดับที่พักอาศัยหลังหลักของครอบครัวถูกจัดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการซื้ออสังหาฯ ในขณะที่การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพถูกจัดเป็นอันดับสอง การซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศเป็นอันดับสาม ตามมาด้วยเหตุผลทางธุรกิจหรือการจ้างงานถูกจัดเป็นอันดับสี่

ไลฟ์สไตล์

หลังจากการกักตัวมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ข้อคิดเห็นที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสำรวจคือผู้ซื้อต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยคิดเป็น 45% ของผู้ตอบแบบสำรวจมีแนวโน้มที่จะซื้อบ้านเดี่ยวมากกว่าก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เน้นไปที่บ้านติดริมน้ำ 40% และบ้านในเขตชนบท 37%

นอกจากนี้ เกือบ 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสำรวจมีแนวโน้มที่จะทำงานจากบ้านหลังการปลดล็อคดาวน์ ซึ่ง 64% กล่าวว่าโฮมออฟฟิตเป็นสิ่งสำคัญ ขณะที่ 32% เห็นว่าไลฟ์สไตล์การทำงานของพวกเขาจะยังคงเหมือนเดิมและยังบอกว่าสำนักงานยังคงมีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรม การทำงานร่วมกัน การศึกษา และการพบปะทางสังคมอีกด้วย

66% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าสวนขนาดใหญ่และพื้นที่กลางแจ้งจัดเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยในช่วงการล็อคดาวน์ทำให้ความสำคัญของคุณภาพชีวิตที่ดีและกิจกรรมกลางแจ้งมีมากขึ้น ส่วนความเป็นส่วนตัวก็ยังคงเป็นที่ต้องการเช่นกัน โดยคิดเป็น 52% และ  33% มีแนวโน้มที่จะต่อเติมบ้านเพื่อสมาชิกในครอบครัว ซึ่งโควิด-19 ทำให้พวกเขาต้องการให้ผู้สูงอายุหรือสมาชิกครอบครัวอยู่ใกล้กันมากขึ้น

ราคา

การสำรวจนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ซื้อคาดว่าราคาอสังหาฯจะปรับลดลงในช่วง 12 เดือนหน้า การคาดการณ์จากไนท์แฟรงค์ ไพร์ม โกลบอล  (Knight Frank Prime Global Forecast) ที่จัดทำขึ้นในเดือนเมษายน 2563 แสดงให้เห็นว่าราคาขายเฉลี่ยคาดว่าจะปรับลดลงใน 16 เมืองจาก 20 เมืองในปี 2563

56% ของผู้ตอบแบบสำรวจคาดว่าราคาขายอสังหาฯ จะปรับลดลงในช่วง 12 เดือนหน้า ซึ่ง 27% คาดว่าราคาขายจะปรับลดลงน้อยกว่า 10% ในขณะที่ 25% คาดว่าราคาขายจะคงที่ และ 19% คาดว่าราคาขายจะปรับเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ 53% ของผู้ซื้อเชื่อว่างบของพวกเขายังคงเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น ตั้งแต่เริ่มมีการระบาด ช่วงการล็อคดาวน์ทำให้พวกเราใช้จ่ายน้อยลง จึงมีแนวโน้มว่าผู้ซื้อจะใช้จ่ายน้อยลงและประหยัดมากขึ้น อย่างไรก็ตามมีมากกว่า 30% ชี้ว่างบของพวกเขาลดลงกว่า 10% ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจและบริษัทต่างๆ มีการปรับลดเงินเดือน การลดชั่วโมงการทำงาน หรือการเลิกจ้าง

บ้านหลังที่สอง

มากกว่า 26% ของผู้ตอบแบบสำรวจแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อบ้านหลังที่สองมากขึ้น เนื่องจากโควิด-19 โดยคาดว่าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนเมื่อมีการแพร่ระบาดครั้งที่สองเกิดขึ้น ข้อมูลจากไนท์แฟรงค์เห็นด้วยกับมุมมองนี้ โดยมีปริมาณการสอบถามข้อมูลเข้ามาอย่างล้นหลามหลังการปลดล็อคดาวน์ เกี่บวกับบ้านหลังที่สองในทำเลไพร์มในประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี

.มาร์ค ฮาร์วี่ หัวหน้าฝ่ายขายต่างประเทศของไนท์แฟรงค์ กล่าวว่า “โดยทั่วไปผู้ซื้อมักมองหาปัจจัยหลัก 3 ประการ ได้แก่ เทคโนโลยีการสื่อสารที่ดี การรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ และทรัพย์สินที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ เราจะเห็นว่าชาวยุโรปใช้เวลาพักผ่อนระยะสั้นๆในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่คิดว่าเราอาจจะเห็นการกลับมาของการพักร้อนสไตล์ดั้งเดิมที่มีหลายๆ ครอบครัวรวมตัวกันไปพักร้อนครั้งละประมาณ 4- 6 สัปดาห์ ใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนไปพร้อมๆกัน ปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางทัศนคติของผู้ซื้อนี้คือความใส่ใจด้านสุขภาพและครอบครัว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงคิดว่าแนวโน้มนี้จะมีความยั่งยืน”

เกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจ (32%) มีแนวโน้มต้องการบ้านหลังที่สอง และ 29% มีแนวโน้มต้องการบ้านพักต่างอากาศ

เกือบ 2 ใน 3 ของผู้ซื้อกล่าวว่าการมองหาบ้านหลังที่สองในต่างประเทศ พวกเขาจะให้ความสำคัญกับวิธีการที่รัฐบาลในประเทศนั้นๆ จัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 เช่น เยอรมนี ออสเตรีย กรีซ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์ ซึ่งอาจส่งผลให้ประเทศเหล่านี้มีอัตราการซื้อบ้านหลังที่สองสูงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

มร.แฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่พักอาศัย ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย กล่าวว่า “เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในเรื่องความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อชาวไทย โดยพวกเขาสนใจพื้นที่กลางแจ้ง พื้นที่สวน-พื้นที่สีเขียว และพื้นที่ส่วนตัวในการทำงานจากบ้านและเพื่อเป็นมุมพักผ่อนมากยิ่งขึ้น”

“มากกว่า 50% ของกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยให้ความสนใจกับที่พักอาศัยใจกลางเมือง เช่น สุขุมวิท อโศก พระราม 9 รัชดา เป็นต้น ส่วนอีกเกือบครึ่งหนึ่งต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น อยุ่ในงบที่จำกัด แม้จะอยู่ไกลจากเมือง แต่ใช้เวลาการเดินเข้าเมืองไม่นาน”

Advertisement
Haus23
Haus23
Haus23