สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ทรงครองราชย์ยาวนานถึง 70 ปี นับว่าเป็นการครองราชย์ที่ยาวนาน ในช่วงชีวิตของพระองค์มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ถือว่าทรงเป็นพระราชินีที่ผ่านมาหลายยุคสมัยมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทุกปัญหาพระองค์ก็ทรงเจอมาแทบจะหมดแล้ว ทางเราจึงรวบรวมเหตุการณ์สำคัญในช่วงรัชสมัยของพระองค์มาฝากกัน
ประสูติ
เจ้าหญิงน้อยประสูติเมื่อวันที่ 21 เมษายน 1926 โดยมีพระนามว่า เอลิซาเบธ อเล็กซานดรา แมรี วินด์เซอร์ ด้วยเมื่อแรกประสูติทรงเป็นพระธิดาพระองค์โตในเจ้าชายอัลเบิร์ต ดยุคแห่งยอร์ก รัชทายาทลำดับที่สอง(ต่อมาเป็นพระเจ้าจอร์จที่ 6) และเลดี้ เอลิซาเบธ โบวส์-ไลออน ดัชเชสแห่งยอร์ก โดยมีพระเจ้าจอร์จที่ห้าแห่งสหราชอาณาจักรเป็นพระอัยกา ต่อมาพระเจ้าจอร์จที่ 5 เสด็จสวรรคต ก็เป็นรัชสมัยของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 (ลุง) แต่หลังจากนั้นก็ทรงสละราชบัลลังค์ในระยะเวลาไม่ถึงปี เพื่อสมรสกับนางวอลลิส ซิมป์สัน ทำให้พระบิดาของเจ้าหญิงอลิซาเบธต้องขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจอร์จที่ 6
สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 เสด็จขึ้นครองราชน์ในวันที่ 11 ธันวาคม 1936
อภิเษกสมรส
ในช่วงหลังสงคราม เจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงพบกับอุปสรรคในเรื่องที่มีพระประสงค์จะอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิป เมาท์แบตแทน แต่โดนหลายฝ่ายคัดค้านว่าฟิลิปนั้นเป็นชาวต่างชาติ ไม่เหมาะสมกับราชสำนัก แต่แล้วพระเจ้าจอร์จที่หกก็ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ทั้งสองพระองค์อภิเษกสมรสได้ โดยพระราชพิธีมีขึ้นที่วิหารเวสต์มินสเตอร์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1947
หลังการอภิเษกสมรส โดยมีพระโอรสคือเจ้าชายชาร์ลส์ (พระยศในขณะนั้น) ประสูติเมื่อปี 1948 ตามมาด้วยเจ้าหญิงแอนน์ซึ่งประสูติในปี 1949 และได้โอกาสใช้ชีวิตครอบครัวเยี่ยงสามัญชนทั่วไปอยู่ระยะเวลาหนึ่ง
พิธีราชาภิเษก
ช่วงหลังพระพลานามัยของพระเจ้าจอร์จที่หก เริ่มเสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็ว เจ้าหญิงจึงต้องเสด็จปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์อยู่บ่อยครั้ง เมื่อครั้งเสด็จเยือน เคนยา ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 เมื่อเสด็จถึงบ้านพักที่ประทับซากานาลอดจ์ในเคนยา หลังจากที่คืนก่อนหน้าเสด็จไปประทับที่โรงแรมทรีท็อปส์ ข่าวการสวรรคตของพระเจ้าจอร์จที่ 6 ก็มาถึง และดยุกแห่งเอดินบะระก็ได้ทรงแจ้งข่าวนี้แก่พระองค์ และทรงเลือกใช้พระปรมาภิไธยว่า “อลิซาเบธ” เช่นเดิม
พิธีราชาภิเษกถูกจัดขึ้นในวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1953 ณ เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ซึ่งเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ ฉลองพระองค์ในพระราชพิธีได้รับการออกแบบและตัดเย็บโดยนอร์มัน ฮาร์ตเนลล์ ซึ่งประดับด้วยลายพรรณพืชของประเทศในเครือจักรภพตามคำแนะนำของพระราชินีนาถ อันประกอบไปด้วย กุหลาบทิวดอร์แห่งอังกฤษ ดอกทริสเติลแห่งสกอตแลนด์ กระเทียมต้นแห่งเวลส์ ดอกแฌมร็อกแห่งไอร์แลนด์ ดอกแวทเทิลแห่งออสเตรเลีย ใบเมเปิลแห่งแคนาดา ใบเฟิร์นสีเงินแห่งนิวซีแลนด์ ดอกโพรทีแห่งแอฟริกาใต้ ดอกบัวหลวงแห่งอินเดียและศรีลังกา รวมไปถึงข้าวสาลี ฝ้าย และปอกระเจาแห่งปากีสถาน
ระหว่างครองราชย์
- ปี 1953-1954 เสด็จพระราชดำเนิน เยือนต่างประเทศ และในเครือจักรภพ
- ปี 1957 เสด็จเยือนสหรัฐอเมริการอย่างเป็นทางการ และทรงกล่าวสุทรพจน์ต่อสมัชชาแห่งสหประชาชาติ
- ปี 1960 และ 1970 สหราชอาณาจักรมอบเอกราชแก่ประเทศแถบแอฟริกา และแถบทะเลแคริเบียน มากกว่า 20 ประเทศ
ในปลายปี 1960 สำนักพระราชวังเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของราชวงศ์อังกฤษในรูปแบบที่เป็นทางการน้อยลง ให้ดูเข้าถึงง่ายและผ่อนคลาย โดยให้ทางบีบีซีเข้าไปถ่ายทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันของพระราชวงศ์ในแบบที่ผู้คนไม่เคยเห็นมาก่อน
- ปี 1977 พิธีรัชดาภิเษก ครองสิริราชสมบัติครบ 25 ปี
- ปี 1980 เสียงวิพากษ์วิจารณ์พระราชวงศ์เพิ่มมากขึ้นจากการที่ชีวิตส่วนพระองค์และชีวิตการทรงงานของบรรดาพระราชโอรส-พระราชธิดาอยู่ภายใต้การพินิจพิเคราะห์ของสื่อความนิยมของประชาชนต่อสมเด็จพระราชินีนาถเริ่มถดถอย
- ปี 1981 พระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายแห่งเวลส์กับเลดีไดอานา สเปนเซอร์
- ปี 1991 อังกฤษและสหรัฐอเมริกาได้รับชัยชนะในสงครามอ่าวเปอร์เซีย
- ปี 1992 พิธีกาญจนาภิเษก ครองสิริราชสมบัติครบ 40 ปี
- ปี 1992 เหตุเพลิงไหม้พระราชวังวินด์เซอร์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน
- ปี 1993 ทรงเผชิญแรงกดดันจากความเห็นประชาชน จึงทรงเริ่มชำระภาษีเงินได้เป็นครั้งแรก ทรงหวังให้ปฏิปักษ์กับสถาบันกษัตริย์น้อยลงกว่าที่ผ่านมา
- ปี 1997 ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีส 31 สิงหาคม ค.ศ. 1997
- ปี 2002 เฉลิมฉลองพระราชพิธีกาญจนาภิเษกครองราชสมบัติครบ 50 ปี เดือนกุมภาพันธ์ เจ้าหญิงมาร์กาเรต เคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน พระขนิษฐา สิ้นพระชนม์ และตามมาด้วยการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี ในเดือนมีนาคม
- ปี 2010 เสด็จเยือนสหรัฐอเมริการอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 2 และทรงกล่าวสุทรพจน์ต่อสมัชชาแห่งสหประชาชาติ
รูปจาก NBC News รูปจาก NBC News
- ปี 2012 พิธีพัชราภิเษก ครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
- ปี 2012 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 และพาราลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่จัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และทรงร่วมแสดงคู่กับแดเนียล เคร็ก ผู้รับบทเป็นสายลับเจมส์ บอนด์ ในภาพยนตร์สั้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อน 2012
- ปี 2015 เป็นพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ เมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2015 พระองค์ยังเป็นพระราชินีนาถที่ทรงราชย์นานที่สุดในประวัติศาสตร์ และทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยังทรงราชย์ยาวนานที่สุดในโลก
- ปี 2017 ฉลองสิริราชสมบัติครบ 65 ปี
- ปี 2022 ครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2022
ทรงมีพระราชดำรัสเนื่องในวาระครบรอบครองราชย์ 70 ปี เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2022 ไว้ว่า
“ข้าพเจ้าตั้งใจอุทิศตนเพื่อท่านด้วยหัวใจทั้งหมดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าหวังว่า พิธีครบรอบในครั้งนี้จะช่วยให้ครอบครัว เพื่อน เพื่อนบ้าน และชุมชน ได้รวมตัวกันหลังผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากของพวกเราหลายคน เพื่อเฉลิมฉลองอย่างมีความสุข และสะท้อนถึงพัฒนาการที่ดีในชีวิตประจำวันของเราที่ประจวบเหมาะกับการครองราชย์ของข้าพเจ้าพอดี”
พระองค์ไม่มีพระราชประสงค์ที่จะสละราชสมบัติแม้ว่าสัดส่วนของพระราชกรณียกิจสาธารณะของเจ้าชายชาลส์ ผู้ทรงฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 91 พรรษาและปฏิบัติพระราชกรณียกิจสาธารณะแทนพระองค์เพิ่มขึ้น ขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถลดพระราชกรณียกิจสาธารณะของพระองค์ลง แผนสำหรับวันสวรรคตและงานพระศพของพระองค์ได้รับการเตรียมพร้อมอย่างแพร่หลายจากรัฐบาลอังกฤษและองค์กรสื่อ
สวรรคต
Photos taken at Buckingham Palave. A view of Buckingham Palace from The Mall. รูปจาก Thairath
วันที่ 8 กันยายน 2022 สำนักพระราชวังประกาศว่า สมเด็จพระราชินีนาถประชวร และอยู่ภายใต้การการเข้าเฝ้ารักษาอย่างใกล้ชิดที่บาลมอรัล โดยในประกาศระบุว่า “คณะแพทย์มีความกังวลต่อพระพลานามัยของพระองค์เป็นอย่างมาก และได้แนะนำให้สมเด็จพระราชินีนาถอยู่ภายใต้การดูแลทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามพระองค์ยังทรงพระเกษมสำราญ และประทับที่ปราสาทแบลมอรัล” และในช่วงเย็นวันเดียวกัน สำนักพระราชวังได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า สมเด็จพระราชินีนาถเสด็จสวรรคต ปฎิบัติการสะพานลอนดอน เริ่มขึ้นทันทีหลังจากพระราชินีเสด็จสวรรคต
ถึงแม้ว่าในปลายรัชสมัยของพระองค์สถาบันพระมหากษัตริย์จะไม่ได้มั่นคงดั่งเช่นต้นรัชสมัย แต่ด้วยความเต็มเปี่ยมไปด้วยความุ่งมั่นที่จะทรงอุทิศตนเพื่อปฎิบัติต่อพระราชกรณียกิจที่ทีต่อพระราชบัลลังค์ และพสกนิกรของพระองค์ ทรงเป็นเสมือนเสาหลักที่มั่นคงในยามที่โลกกำลังเลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ ยังคงเป็นที่รักและเคารพของชาวอังกฤษตราบนานเท่านาน ดังเช่นพระราชดำรัสที่พระองค์เคยให้ไว้ว่า
“เมื่อข้าพเจ้าอายุได้ 21 ปี ได้ให้คำมั่นกับตนเองว่าจะอุทิศชีวิตเพื่อรับใช้ประชาชน และได้ขอประทานพรจากพระเจ้าเพื่อให้ความหวังนั้นสำเร็จด้วยดี แม้การตั้งปณิธานนี้จะมีขึ้นในสมัยที่ข้าพเจ้ายังมีความคิดอ่านที่สับสนวุ่นวาย และยังอ่อนด้อยต่อการใช้วิจารณญาณนัก แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเสียใจที่ได้ตั้งใจไว้เช่นนี้ และจะไม่ขอถอนคำพูดแม้แต่คำเดียว”
หากใครสนใจประวัติส่วนพระองค์เพิ่มเติม สามารถรับชมภาพยนตร์สารคดี The Crown ได้ทางช่อง Original Netflix ที่รับประกันทั้งความสนุก บทยอดเยี่ยม และงานภาพที่สวยงามอลังการ ใครชอบแนวเรื่องจริงอิงประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดกันนะ