ในช่วงต้นปีจะเห็นได้ว่าจะมีโปรโมชั่นดึงดูดให้ซื้อคอนโดมิเนียมกันจำนวนมาก เนื่องจากมีมาตรการ LTV เข้ามา แต่ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะเป็นจังหวะซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือไม่ แล้วการลงทุนยังไปต่อได้หรือไม่ เราไปหาคำตอบกัน
วันนี้เราขอพาคุณผู้ชมไปรีวิวภาพของอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมากันก่อน เริ่มตั้งแต่ในช่วงไตรมาสหนึ่งของปี ที่ภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดตัวมาได้อย่างสดใส จากยอดขายไปได้ค่อนข้างดี นับเพียงแค่ 10 บริษัทยักษ์ใหญ่ก็กวาดยอดขายในไตรมาส 1 ได้ถึง 6.5 หมื่นล้านบาท แต่ยอดนี้เกิดจากการกระตุ้นตลาดของผู้พัฒนาอสังหาฯ ก่อนการบังคับใช้มาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ หรือ LTV ทำให้เกิดการเร่งโอนจำนวนมาก แต่เมื่อถัดมาในไตรมาส 2 ยอดการซื้อขายก็ลดลงมาค่อนข้างชัดเจน ลุกลามมาถึงไตรมาส 3 ก็ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง
โดยคุณพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ก็ได้ย้ำถึงทิศทางในปีนี้ว่า ทิศทางชะลอตัวอย่างชัดเจน ทั้งจากภาคธนาคารที่ไม่อนุมัติสินเชื่อลงทุนให้กับผู้ประกอบการเท่าที่ควร ไปจนถึงมาตรการ LTV จนบางกลุ่มชะลอตัวลงถึง 30% โดยเฉพาะกลุ่ม 1.5 – 3 ล้านบาท ถูกผลกระทบมาก เมื่อภาพของตลาดอสังหาเป็นเช่นนี้ จึงเป็นจังหวะที่ผู้ประกอบการอยากขาย แต่ราคาคงไม่ลดลงเพราะต้นทุนที่ดินสูงขึ้นทุกวันอยู่แล้ว อาจได้สิทธิประโยชน์โปรโมชั่นที่จะขอได้เพิ่มมากขึ้น หากคุณผู้ชมคนไหนที่มีความจำเป็นก็สามารถซื้อได้ทันที
ภาพรวมปีนี้ยังอาจอยู่ในแดนบวก แต่เป็นการเติบโตที่น้อยลง เจาะกลุ่มลูกค้ามากขึ้น แต่หากภาคอสังหาชะลอตัวลงไปมากกว่านี้ ก็จะส่งผลต่อจีดีพีได้เช่นกัน สอดคล้องกับมุมมองของ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ มองว่า ครึ่งปีหลังจะอยู่ในสถานการณ์ชะลอตัวลง เนื่องจากกำลังซื้อของคนไทยลดลงมาตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้ว ที่ผ่านมาต้องพึ่งพากำลังซื้อจากต่างชาติ ทั้ง จีน ฮ่องกง ซึ่งตั้งแต่ต้นปีกำลังซื้อของกลุ่มนี้ก็ลดลงชัดเจนกว่า 50-70% จากที่เคยมีในอดีต ในมุมผู้ประกอบการทุกรายก็จะปรับตัวลดปริมาณการสร้างคอนโดมิเนียม หันไปทำโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น หรือไปลงทุนในธุรกิจโรงแรมและพื้นที่อุตสาหกรรมมากขึ้น
ฉะนั้น ในเชิงนักลงทุนเองคุณพนม เน้นย้ำว่า ต้องทำการบ้านให้เยอะกว่าปกติ หากต้องการความเสี่ยงที่ต่ำลง อาจหาทางเลือกผ่านการลงทุนรูปแบบอื่น เช่น ผ่านกองทุนรวม กอง Reit ทรัพย์สินประเภทอื่นๆ หรือในกลุ่มที่ฐานะการเงินสูง อาจไปซื้อทรัพย์สินในต่างประเทศ โดยใช้โอกาสจากค่าเงินบาทเข้ามาเป็นตัวช่วยให้ซื้อของได้ถูกลง
กมลธร โกมารทัต รายงาน
ที่มา : pptvhd36.com