ส่องพื้นที่อสังหาฯ สุดฮอต ทำเล ย่านรัชดาภิเษก

ถ้าหากพูดถึงทำเลยอดฮิตในกรุงเทพฯ แล้วก็คงจะหนีพ้นทำเล ย่านรัชดาภิเษก ไม่ได้ เพราะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อเสียงติดอยู่บนรายชื่อทำเลทองที่น่าลงทุน เนื่องจากทำเลย่านนี้เป็นหนึ่งใน New CBD (ย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่) และในปัจจุบันนี้จากการประเมินราคาที่ดินของย่านรัชดามีราคาตกอยู่ที่ตารางวาละ 350,000 – 450,000 บาท

ซึ่งจัดอยู่ในที่ดินราคาสูงแต่ก็ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนที่ได้กว้านซื้อที่ดินย่านนี้ เพื่อในอนาคตจะได้สามารถรองรับการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ย่านธุรกิจที่มีแนวโน้มจะเกิดการขยายตัวในด้านประชากร การพัฒนาธุรกิจ และจะเปลี่ยนให้รัชดาฯ กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในอนาคตอีกด้วย

ท่ามกลางชีวิตที่เร่งด่วนของคนในกรุงเทพฯ การหาทำเลแหล่งที่อยู่อาศัยที่จะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการงานและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเหมาะเจาะ เป็นวิธีหนึ่งที่จะสามารถช่วยลดภาวะความตึงเครียดที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน เมื่อมีรถไฟใต้ดิน MRT ตัดผ่านจนถึงทุกวันนี้ก็ได้เปลี่ยนโฉมรัชดาให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจใหม่อีกแห่งของกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ lifestyle ของชีวิตทำงานได้ลงตัวมากๆ เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยเรื่องของการใช้ชีวิตแล้ว ใจกลางเมืองรัชดาภิเษกก็ยังมีสถานศึกษาชั้นนำอย่าง The regent school และ Thai Japan association school

ความพิเศษของ ย่านรัชดาภิเษก

รัชดาภิเษกถือเป็นทำเลที่ดีมีระดับ เหมาะสำหรับกลุ่มของผู้บริหาร นักลงทุน รวมถึงกลุ่มผู้ปกครองทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะเลือกเข้ามาพักอาศัยหรือเลือกจะลงทุนสำหรับปล่อยเช่า โดยเฉพาะกลุ่มของชาวต่างชาติที่เรียกว่า “กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้าทำงานในไทย” จะให้ความสำคัญกับการเลือกที่พักให้ใกล้กับแหล่งทำงาน ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ และอยู่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้าเป็นพิเศษ ทำเลแถวรัชดาภิเษกดูจะเป็นทำเลที่มีความพิเศษ ในเรื่องของลักษณะการพัฒนาและเอกลักษณ์ของพื้นที่ที่มีค่อนข้างชัดเจน โดยเริ่มต้นจากการเข้าถึงของรถไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2554 ที่ช่วยกระตุ้นในทำเลนี้มีความคึกคักมากขึ้น จนในที่สุดก็กลายเป็นจุดรวม ด้านการคมนาคมที่สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ทั้ง BTS, MRT และ Airportlink

นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้เองก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่าน แน่นอนว่ายิ่งทำให้การเดินทางเป็นไปได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ก็สบายเพราะถนนรัชดาภิเษกเชื่อมต่อเข้ากับทั้งถนนสุขุมวิทและถนนเส้นหลักอีกหลายสาย เดินทางไปไหนมาไหนจึงสะดวกเพราะเป็นศูนย์รวมของถนนและทางด่วนสายสำคัญ อีกทั้งยังเป็นย่านของชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นแหล่งธุรกิจและเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น สถานทูตจีน สถานทูตเกาหลีใต้ และสถานทูตกัมพูชา ทำให้ผู้อยู่อาศัยในย่านนี้เป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนที่ต้องการเลือกคอนโดรอบๆ สถานทูตนี้ไว้เป็นที่พักอาศัยให้กับพนักงาน รวมถึงนักธุรกิจชาวจีนต่างก็เข้ามาเลือกลงทุนคอนโดในประเทศไทย เนื่องจากราคาอสังหาฯ ในไทยต่ำกว่าจีนอยู่ประมาณ 20-25 % และมีเงื่อนไขการซื้อขายที่ไม่ยุ่งยาก ด้วยเหตุผลของการพัฒนาต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ทำเลย่านรัชดาภิเษกกลายเป็นจุดรวมของที่อยู่อาศัยใหม่ โดยเฉพาะที่อยู่ประเภทคอนโดมิเนียม เพื่อรองรับกลุ่มคนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาทำงานหรือทำการลงทุนในประเทศไทย

รัชดาเมืองแห่งไลฟ์สไตล์สุดฮิป

ย่านรัชดาภิเษก นั้นถือว่าเป็นเมืองแห่งไลฟ์สไตล์ที่เป็นกำไรของการใช้ชีวิต เพราะเมื่อพูดถึงคำว่า “กำไร” ในแง่มุมของนักธุรกิจก็คือ ผลตอบแทนของธุรกิจที่สร้างขึ้นมาเป็นหัวใจของผู้ทำธุรกิจ  แต่แท้จริงแล้วถ้าเป็นกำไรของการใช้ชีวิตสำหรับคนธรรมดาอย่างเราก็จะเป็นการที่ได้อยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก มีสาธารณูปโภคที่ครบครันและการเดินทางก็สะดวก อาทิเช่น ศูนย์การค้า ศูนย์รวมเสื้อผ้า ร้านอาหาร ตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT ศูนย์วัฒนธรรม แหล่ง Hang out แนวใหม่ที่รวบรวมพื้นที่กิน ดื่ม ช็อป โดยบางส่วนของห้างจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนทั้งจากแบรนด์ไทยและต่างประเทศในสไตล์ชิคๆ เปลี่ยนบรรยากาศเป็นการนั่งทำงานแบบ Open Air ชิลๆ มีให้เลือกรับประทานหลากหลายทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง เกาหลี หรือจะเป็นปลาดิบจากญี่ปุ่นก็มีให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังมีพื้นที่ออกกำลังกายแนวใหม่โดนใจทุกคนในครอบครัว ตอบโจทย์ความต้องการขั้นพื้นฐานของคนเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำเลย่านรัชดาภิเษกเองก็ถือว่า เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ไลฟ์สไตล์ของคนเมือง เนื่องจากมีครบทุกความต้องการ

สถานที่สำคัญที่ถนนตัดผ่าน

• สำนักงานอัยการสูงสุด
• ศาลแพ่ง ศาลอาญา และศาลอุทธรณ์
• ศาลแขวงพระนครเหนือ
• ศาลภาษีอากรกลาง
• สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
• กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
• ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
• สถานเอกอัครราชทูตจีน
• สถานเอกอัครราชทูตสเปน
• สวนเบญจกิติ
• ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
• ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
• มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา
• ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
• สถานีรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ลาดพร้าว รัชดาภิเษก สุทธิสาร ห้วยขวาง
• ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย พระราม 9 และ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

สะดวกสบายกับ MRT

เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางของคุณได้โดยเร็วที่สุดด้วยรถไฟใต้ดิน MRT ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมที่สะดวกที่สุดซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นเขตสำคัญ การเพิ่มทุนอาคารชุดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพระราม 9 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ต่อปี ส่วนพื้นที่สุขุมวิท ราคาคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นมากที่สุดในอัตรา 5.6% ต่อปีในขณะที่สถานีเพชรบุรีและสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยราคาเพิ่มขึ้น 4.3 – 9.9% ต่อปีและ 4.2 – 6.1% ตามลำดับ

นอกจากนี้โครงการขนส่งในอนาคตเช่นโครงการรถไฟฟ้ากรุงเทพ (PPP Fast Track) ของกรุงเทพฯ คือโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT Orange Line ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพและอยู่ในขั้นตอนรอการประมูล หลังจากที่เริ่มการประมูลแล้วจะมีการระดมทุนในบริเวณรอบๆ MRT ไปอีกระดับหนึ่ง เนื่องจากสายสีส้มจะผ่านสถานี 2 แห่งคือสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยและถนนพระราม 9

เมื่อผ่านมาที่ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ถ้าไม่ได้มาลิ้มลองรสชาติอาหารจีนแล้วถือว่ามาไม่ถึงเลยทีเดียวก็ว่าได้ เพราะที่นี่นอกจากจะมีบรรยากาศแบบจีนๆ อาหารจีนของที่นี่ก็คงรสชาติความอร่อยแบบคนจีนไว้ได้ยอมเยี่ยมมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นประเภทอาหารแนวปิ้งย่างแบบจีนยูนนาน หม้อไฟ สุกี้ ที่เน้นรสชาติเผ็ดตามแบบต้นตำหรับ

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวสำหรับคนที่รักการกิน ดื่ม เที่ยว “ไชน่าทาวน์”หรือ“ถนนเยาวราช”

แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ณ ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ห้วยขวาง ซึ่งอยู่ห่างจาก MRT ห้วยขวางมาประมาณ 700 เมตร โดยทั้งสองข้างทางของถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญจะเต็มไปด้วยจุดบริการแลกเปลี่ยนเงิน สปา ร้านโลจิสติกส์ ร้านขายกระเป๋าหนัง หมอนยางพารา เครื่องสำอาง และอาหารจีน เจ้าละ 1-3 คูหา ที่สลับกันเปิดปิดจากเที่ยงวันยาวไปถึงหลังเที่ยงคืน ซึ่งปัจจุบันที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

เดินเล่นนั่งชิลแบบเปิดโล่งที่ “ตลาดนัดรถไฟรัชดา”

แหล่งช้อปปิงยอดฮิตของคนกรุงเทพฯ จุดเด่นเลยคือร้านอาหารและผับแบบบาร์สำหรับคนที่ชื่นชอบการไปปาร์ตี้ อยากจะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนๆ หรืออยากจะนั่งชิวในบรรยากาศดีและมีดนตรีเพราะๆ ให้ฟังในยามค่ำคืนสุดเก๋ ตลาดนัดรถไฟรัชดาฯ ถือเป็นศูนย์รวมแห่งสไตล์วินเทจที่มีความคึกคักและสร้างสีสันให้กับทำเลย่านรัชดาฯ แหล่งรวมของคลาสสิกที่เหมาะสำหรับสาวกเหล่าฮิปสเตอร์

ตลาดแห่งนี้จะแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนเรียกง่ายๆ ว่าพื้นที่โซน เช่น ชม “โซนโกดัง” จะมีการขายของเก่าที่ไว้สำหรับการตกแต่งหรือเก็บสะสมจำพวกของสไตล์วินเทจ, ช้อป “โซนร้านค้า” จะเป็นการขายสินค้าแฟชั่น อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ, และที่พลาดไม่ได้เลยคือ ชิม “โซนอาหาร” กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ที่นี่ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกอย่างมากมาย ส่วนราคาขายของก็สามารถจับต้องได้ อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วย MRT และที่นี่ยังเปิดให้บริการทุกวัน

รัชดาภิเษกในอนาคต

การเติบโตของสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยในอนาคต

ในอนาคตรัชดาฯ จะคับคลั่งไปด้วยผู้คนอย่างมากมายที่เดินทางมารวมตัวกัน เนื่องจากโครงการสายรถไฟสีส้มได้เข้ามาเปิดให้บริการ ทำให้ย่านรัชดาฯ แห่งนี้กลายเป็นทำเลที่สามารถสับเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าได้ เกิดความสะดวกสบาย และยิ่งเมื่อผู้คนหลั่งไหลเข้ามามายเท่าไหร่ โครงการเกี่ยวกับพาณิชยกรรมต่างๆ บริเวณรอบๆ ก็จะยิ่งเป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นเท่านั้น หรือมากไปกว่านั้นอาจเกิดโครงการประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงาน โรงแรม คอนโด ภัตตาคาร และสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว สิ่งบังเทิงจะหลั่งไหลเข้ามาในย่านนี้ เกิดสถานที่แหล่งบังเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวก After-work ศูนย์วัฒนธรรมก็จะคอยรองรับผู้คนที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน ที่มีการรวบรวมความบังเทิงเริงรมย์รูปแบบต่างๆ ที่เน้นความสนุกสนาน ยิ่งช่วยตอกย้ำคาแรกเตอร์ตามชื่อของสถานี อาทิเช่น เดินเล่นสบายๆ ที่ The Street Ratchada คอมมูนิตี้มอลล์สุดฮิปแหล่งแฮงค์เอ้าท์ตลอด 24 ชั่วโมง, ช้อปปิ้ง Big C Extra, แหล่งรวมสินค้าไอทีต้อง Fortune Town , ถ้าอยากตกแต่งบ้านต้องไปที่ Home Pro, ชมละครเวทีที่ Esplanade ศูนย์รวมความบันเทิงทั้งโรงหนังและโรงละครเวทีชั้นนำ, ชมงานศิลป์เสพวัฒนธรรมจากทั่วโลกที่ศูนย์วัฒนธรรม, เฮฮาปาร์ตี้กับสถานบังเทิงตอนกลางคืนรอบๆ ย่านนี้ก็มีครบครัน ถือว่ามาที่เดียวจบทุกโหมดและผ่อนคลาย

โครงการรอบๆ สถานีศูนย์วัฒนธรรม

ลักษณะการพัฒนาของย่านศูนย์วัฒนธรรมจะเป็นโครงการแบบ Mixed-use มีการผสมผสานระหว่างอาคารสำนักงาน พาณิชย์ โรงแรม โรงมหรสพ serviced apartment ถ้าเป็นคอนโดมิเนียมก็จะเป็นคอนโดมิเนียมแบบ leasehold ส่วนคอนโดมิเนียมแบบ freehold ก็มีแต่อาจจะอยู่ห่างออกไปจากตัวสถานีมากหน่อย

ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ต้องการสร้างให้เป็นจุดนัดพบทางศิลปะวัฒนธรรมของคนไทยและนานาประเทศ และเป็น Asean Cultural Gateway

โครงการตั้งอยู่ติดกับศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยปัจจุบัน พื้นที่ประมาณ 58 ไร่

New CBD (New Central Business District)

ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ในอนาคต หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่าแหล่งเงินสะพัด เป็นย่านที่มีความเจริญเติบโตทางด้านธุรกิจ ที่ได้รวบรวมธุรกิจหลากหลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน ทั้ง สำนักงาน ออฟฟิศ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานที่ราชการ ย่านศูนย์กลางธุรกิจใหม่ (CBD) ซึ่งมีการเกิดใหม่ของอาคารสำนักงานหลายแห่ง อาทิเช่น เดอะซุปเปอร์ ทาวเวอร์ 125 ชั้น สูงที่สุดในอาเซียนซึ่งกำลังก่อสร้าง, โครงการมักกะสันคอมเพล็กซ์ ของการรถไฟฯ บนที่ดิน 497 ไร่,  อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย,  สำนักงานใหญ่ของยูนิลีเวอร์ รวมไปถึง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เอสพลานาด รัชดา, เดอะสตรีท, เซ็นทรัลพระราม 9, ฟอร์จูน และ สถานบันเทิงจำนวนมาก ทำให้ในย่านนี้ไม่เคยหลับ ด้วยความที่เป็นทั้งแหล่งงานกลางวันและแหล่งบันเทิงของคนกลางคืน  อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคม โดยเชื่อมต่อรถไฟฟ้าเฉลิมรัชมงคล รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ในปัจจุบัน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-รามคำแหง-มีนบุรี) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองลาดพร้าว-บางกะปิ-พัฒนาการ ในอนาคต รวมไปถึงทางพิเศษศรีรัช ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองเป็นไปได้อย่างคล่องตัว

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้แนวโน้มราคาตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดิน “ย่านรัชดาภิเษก” ในอนาคตคาดว่าจะมีการขยายตัวสูง แต่ปัจจัยด้านราคาที่ดินยังต่ำ โดยปัจจุบันราคาประเมิณที่ดินอยู่ที่ตารางวาละ 3.5 – 4 แสนบาท แต่ในอนาคตคาดว่าที่ดินบริเวณนี้สามาะมีราคาพุ่งสูงถึงตารางวาละ 7 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท เนื่องจากศักยภาพทำเลที่ไม่ด้อยไปกว่าเขตอื่นๆ ทำให้เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนี่ยมที่สามารถตอบโจทย์ lifestyles ของคนเมืองได้เป็นอย่างดี

ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน “ทำเลย่านรัชดาภิเษก” ก็ยังเป็นหัวใจหลักในการเลือกที่อยู่อาศัยและการเลือกพื้นที่ ในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือ รูปแบบของโครงการพักอาศัยที่ต้องตอบโจยท์และตรงใจกลุ่มเป้าหมายลูกค้า เพื่อให้เข้าถึง lifestyle ที่แตกต่างได้อย่างลงตัวมากที่สุด อาจเป็นเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย จึงอยากได้ที่พักใกล้ที่ทำงาน จะเดินทางไปไหนก็สะดวกสบายเท่านั้นก็พอแล้ว

ที่มา : https://www.baan-d.com/