คืบหน้ารถไฟฟ้า 4 โครงการ 4 จังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว ‘ภูเก็ต-โคราช-พิษณุโลก-เชียงใหม่’ วงเงินลงทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แก้ปัญหาจราจร เสริมการท่องเที่ยว หนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์
การการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รับมอบนโยบายจากรัฐบาลให้ลงทุนโครงการระบบขนส่งมวลชนในหัวเมืองภูมิภาค ใน 4 จังหวัด รวม 4 โครงการ เพื่อแก้ปัญหาการจราจร และส่งเสริมการท่องเที่ยว วงเงินลงทุนโครงการรวมกว่า 70,000 ล้านบาท
โดยเป็นการลงทุนรูปแบบ PPP รัฐลงทุนงานโยธาคิดเป็นสัดส่วน 80% และเอกชนลงทุนระบบและรับสัมปทานเดินรถ คิดเป็นสัดส่วนการลงทุน 20% ซึ่งจะให้เอกชนหาเงินลงทุนให้ก่อนเหมือนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง จากนั้นรัฐจะชำระคืนไม่เกินค่างานโยธาเป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากเปิดบริการ
เตรียมก่อสร้างรถไฟฟ้าภูเก็ตปีหน้า คาด 4 ปีเสร็จ
รถไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง วงเงินลงทุนโครงการรวมประมาณ 35,000 ล้านบาท ระยะทาง 41.7 กิโลเมตร จำนวน 21 สถานี รูปแบบเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) ถือเป็นโครงการที่มีความก้าวหน้าและพร้อมดำเนินการมากที่สุด
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการนำเสนอรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2562 จากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการพิจารณา ก่อนเสนอไปยังคณะกรรมการ PPP และ ครม. ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะคาดว่าจะเริ่มการคัดเลือกเอกชนในเดือนพฤศจิกายน 2563 ก่อสร้างในเดือนธันวาคม 2564 และเปิดให้บริการในช่วงเดือนมีนาคม 2568
หนุนศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นทั้งสวรรค์ของการท่องเที่ยวและการลงทุน มีนักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างชาติสนใจเข้าไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมจะชะลอตัว
คืบหน้ารถไฟฟ้า พลิกโฉมการเดินทางโคราช
สำหรับจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และยังเป็นประตูสู่อีสาน หรือจุดเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อีสานเหนือและอีสานใต้ ด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเมือง ความแออัด และปัญหาการจราจรซึ่งส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง นำไปสู่แผนก่อสร้างรถไฟฟ้าที่จะพลิกโฉมการเดินทาง
รถไฟฟ้าจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว ช่วงตลาดเซฟวัน-สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีะบ้านนารีสวัสดิ์ วงเงินลงทุนโครงการ 7,914 ล้านบาท ระยะทาง 11.7 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีทั้งหมด 20 สถานี รูปแบบเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา ความคืบหน้าปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงเดือนเมษายน 2565 แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในกรกฎาคม 2568
ปี 65 เดินเครื่องรถไฟฟ้าเชียงใหม่ คาดเปิดใช้ปี 70
ในส่วนของรถไฟฟ้าจังหวัดเชียงใหม่ สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์-แยกแม่เหียะสมานสามัคคี วงเงินลงทุนโครงการ 27,000 ล้านบาท ระยะทาง 15.8 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีทั้งหมด 16 สถานี แบ่งเป็นสถานีระดับพื้นดิน 9 สถานี และสถานีใต้ดิน 7 สถานี รูปแบบเป็นระบบรถรางไฟฟ้า (LRT/Tram) ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา
ตามแผนงานเมื่อการศึกษาออกแบบแล้วเสร็จ จะสามารถนำเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการจากครม. ประมาณกลางปี 2564 เริ่มก่อสร้างภายในเดือนมีนาคม 2565 และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2570
เมื่อโครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์จะเป็นการเพิ่มอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐาน มีความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัย ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงสามารถลดการใช้รถยนต์โดยรวมบนท้องถนน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศที่เกิดจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ได้อีกด้วย
ครม.ไฟเขียวสร้างรถไฟฟ้าพิษณุโลก ม.พิษณุโลก-เซ็นทรัล
ปิดท้ายที่รถไฟฟ้าจังหวัดพิษณุโลก สายสีแดงจากมหาวิทยาลัยนเรศวร-เซ็นทรัลพิษณุโลก วงเงินลงทุนโครงการ 1,666.78 ล้านบาท ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี รูปแบบรถรางล้อยาง ซึ่งคณะรัฐมนตรีเพิ่งอนุมัติให้ รฟม.เริ่มดำเนินโครงการทั้งศึกษา ออกแบบรายละเอียดและรูปแบบการลงทุน PPP ตามแผนจะเสนอขออนุมัติรูปแบบลงทุนในเดือน พฤษภาคม 2564 คัดเลือกเอกชนในเดือนกันยายน 2565 ก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2566 และเปิดบริการในเดือนธันวาคม 2569
ทั้งนี้ การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าใน 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา และพิษณุโลก ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความแออัดของประชากรค่อนข้างสูง มีปัญหาการจราจรหนาแน่น เนื่องจากเป็นจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นจังหวัดใหญ่ศูนย์กลางธุรกิจของประเทศ
การสร้างระบรถไฟฟ้าจะช่วยลดปัญหาจราจร นอกจากจะเพิ่มทางเลือกการเดินทางที่มีความสะดวกสบาย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดดังกล่าวแล้ว ยังส่งผลต่อการลงทุนด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ที่จะกระจายตัวเกาะแนวรถไฟฟ้าเฉกเช่นเดียวกับในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ที่มา : www.ddproperty.com/