อาร์พีซีจีปรับโครงสร้างธุรกิจ ผันตัวเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ลุยพลังงานกับอสังหาฯ ลั่น 5 ปี 8,000 ล้าน
นายสัจจา เจนธรรมนุกูล ประธานกรรมการ บริษัท อาร์พีซีจี เปิดเผยว่า บริษัทปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ จากเดิมที่ทำธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน เปลี่ยนเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ภายหลังบริษัทเข้าถือหุ้นบริษัท สัมมากร ในสัดส่วน 48.25%
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนจะมีรายได้จาก 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน จากกิจการของบริษัท เพียวพลังงานไทย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือและกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท สัมมากร ซึ่งตั้งเป้ารายได้ 8,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี หรือเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี แบ่งเป็นรายได้มาจาก 2 ธุรกิจ สัดส่วนกลุ่มธุรกิจละ 50% ต่อ 50%
อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ทรงตัวเทียบเท่ากับปีก่อนอยู่ในระดับ 4,500 ล้านบาท ซึ่งมาจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน 3,200 ล้านบาท และอสังหาริมทรัพย์ 1,300 ล้านบาท
สำหรับแผนลงทุนใน 2 ธุรกิจ ดังกล่าวในปี 2558 นี้ กลุ่มธุรกิจค้าปลีกน้ำมันคาดว่าจะมีการขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น 10 แห่ง โดยใช้เงินลงทุนเฉลี่ยสถานีบริการน้ำมันละ 5 ล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าว 1-2 แห่ง จะมีการพัฒนารูปแบบการเปิดให้บริการในลักษณะคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีปั๊มน้ำมันด้วย ซึ่งจะใช้เงินลงทุนโครงการละ 100 ล้านบาท ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะมีการขยายเพิ่ม 2 โครงการ บ้านเดี่ยวย่านชัยพฤกษ์ และทาวน์เฮาส์ย่านคู้บอน โดยใช้เงินลงทุนรวม 3,000 ล้านบาท
“เรามองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีกำไรผลตอบแทนอยู่ที่ 10% สูงกว่าธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน ที่มีกำไรผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 2% เท่านั้น แต่เราได้เอาจุดเด่นของแต่ละธุรกิจมาผนวกต่อยอดเข้าด้วยกัน” นายสัจจา กล่าว
ขณะที่บริษัทมีแผนแยกส่วนขายโรงกลั่นน้ำมันที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อนำที่ดิน 33 ไร่ ไปพัฒนาเป็นอสังหาริมทรัพย์ รองรับการเติบโตของนิคมอุตสาหกรรมต่อไป ในรูปแบบศูนย์ประชุม สำนักงาน จุดบริการ นักลงทุน และคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลา 1-2 ปีในการพัฒนา โดยปัจจุบันได้มีการประเมินมูลค่าที่ดินบริเวณดังกล่าวอยู่ที่ 200 ล้านบาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์