ชงรถไฟฟ้าสายชมพู-เหลืองเข้าครม.

607

“คมนาคม”กางแผนเร่งผลักดันรถไฟฟ้า ชมพูเหลือง ส้ม เข้าพิจารณาครม.หวังให้เสร็จตามแผน ประเดิมสายสีชมพู-เหลือง

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ นั้นมีความคืบหน้าไปด้วยดี โดยปัจจุบันนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งเป็นทางยกระดับตลอดเส้นทาง รวมระยะทางให้บริการ 34.5 กิโลเมตร และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าวบางกะปิ-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร ก่อนเสนอให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณานำเสนอครม.อนุมัติเพื่อดำเนินโครงการ

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงแรกอยู่ระหว่างรอคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (บอร์ด รฟม.) อนุมัติการปรับแบบแนวเส้นทางภายในเดือนก.พ. 2558 นี้

ขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยายบางซื่อ-หัวลำโพง และบางซื่อ-หัวหมาก และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์ ช่วงพญาไท- ดอนเมือง ระยะทาง 21.8 กิโลเมตร คาดว่าจะนำเสนอให้ รวม.คมนาคมพิจารณาได้ภายหลังกลับจากการเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ. นี้ หลังจากนั้นก็จะสามารถนำเสนอ ครม. ได้

ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิตสะพานใหม่-คูคต ระยะทางรวม 19 กิโลเมตร อยู่ระหว่างต่อรองราคากับบริษัทผู้ชนะการประกวดราคา คาดว่าภายในเดือนก.พ. 2558 จะแล้วเสร็จ และสามารถลงนามในสัญญาเพื่อก่อสร้างได้

Advertisement

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่บางซื่อ ระยะทางรวม 23 กิโลเมตร มีความคืบหน้าแล้ว 98% จะแล้วเสร็จ 100% ในเร็วๆ นี้ โดยจะเริ่มรับมอบขบวนรถมาทดลองวิ่งให้บริการในเดือนก.ย. จากนั้นจะเปิดให้บริการประชาชนทั่วไปได้ประมาณต้นปี 2559

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อท่าพระ ระยะทาง 11.08 กิโลเมตร และหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 15.9 กิโลเมตร ซึ่งเบื้องต้นสามารถแก้ไขจุดตัดที่เป็นปัญหากับทางกรุงเทพมหานครเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถเดินหน้าก่อสร้างได้อย่างเต็มที่ ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่งสมุทรปราการ สามารถก่อสร้างได้เร็วกว่ากำหนด ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถเปิดบริการแก่ประชาชนได้ภายในปี 2560 อย่างแน่นอน

นอกจากเรื่องของรถไฟฟ้าแล้วในที่ประชุมฯ ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ยังจะเสนอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าหมายก่อสร้างเสร็จในปี 2562 และโครงการทางวิ่งสำรอง วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้าหมายก่อสร้างเสร็จในปี 2560 โดยจะเสนอเข้ามาที่ประชุมกระทรวงคมนาคมภายในเดือน ก.พ. นี้ ส่วนการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 489 คัน จะประกาศประกวดราคาอีกครั้งในวันที่ 9-13 ก.พ. 2558

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

Advertisement
Haus23
Haus23
Haus23