โควิด-19 ทำพิษ ค่ายอสังหาฯแห่เลื่อนเปิดโครงการใหม่ เปิดสถิติ Q1/63 วูบ 40% ต่ำสุดตั้งแต่น้ำท่วมปี 54 ลามต่อใน Q2/63 บางรายเลื่อนไกลถึงปี 64 แห่ปรับกลยุทธ์ กระหน่ำโปรโมชั่นระบายสต็อก ดั๊มราคาแรง-อยู่ฟรีสูงสุด 3 ปี กูรูคาดกำไรกลุ่มฯปีนี้หด 23% ต่ำสุดรอบ 7 ปี
ยอดเปิดโครงการใหม่ Q1/63 วูบ 40%
“วิชัย วิรัตกพันธ์” รักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีการเลื่อนเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก สะท้อนจากสถิติไตรมาส 1/63 มีโครงการเปิดใหม่ 68 แห่ง ลดลง 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเปิดโครงการใหม่ต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4/54 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่
โดยการเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 1/63 เป็นอาคารชุด 23 แห่ง 7,111 ยูนิต และ บ้านจัดสรร 45 แห่ง 8,821 ยูนิต ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง (2558-2562) เกือบ 50% จากปกติที่จะมีการเปิดโครงการใหม่เฉลี่ยไตรมาสละ 116 แห่ง
ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่เปิดตัวในไตรมาส 1/63 มาจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประมาณ 77%
5 บิ๊กอสังหาฯ แห่เลื่อนเปิดโครงการใหม่
“วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต” กรรมการผู้จัดการ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) ระบุว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ด้วยการเลื่อนเปิด 4-5 โครงการใหม่ไปเป็นปีหน้า จากเดิมตั้งเป้าปีนี้จะเปิด 12 โครงการใหม่ คาดว่าน่าจะเหลือราว 8 โครงการ โดยจะเป็นแนวราบทั้งหมด ขณะเดียวกันได้ปรับแผนเน้นพัฒนาขยายเฟสในโครงการเดิม มากกว่าเปิดโครงการใหม่ เพื่อลดงบประมาณการลงทุนสาธารณูปโภค รวมถึงจะมีการผลิตโครงการไว้เผื่อขายเพียงระยะ2 เดือน จากปกติจะเผื่อไว้ขายระยะ 5-6 เดือน เพื่อรักษากระแสเงินสด
“ธงชัย บุศราพันธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า บริษัทได้เลื่อนเปิด 3 โครงการคอนโดใหม่ จากกำหนดเดิมจะเปิดตัวในไตรมาส 2/63 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และการ Lock Down ของรัฐบาล คาดว่าหากสถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลายภายใน มิ.ย.63 ก็อาจจะกลับมาเปิดขาย 3 โครงการดังกล่าวได้ภายในไตรมาส 3/63 แต่หากยังยืดเยื้อจะมีการทบทวนเป้าหมายอีกครั้ง เบื้องต้นยังคงเป้าหมายเปิด 7 โครงการใหม่ปีนี้ มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านบาท
“อดิศร ธนนันท์นราพูล” กรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) เผยว่า ขณะนี้ได้มีการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ 1 แห่งที่จังหวัดภูเก็ต จากกำหนดเดิมไตรมาส 2/63 เนื่องจากมาตรการ Lock Down ส่งผลต่อแผนการก่อสร้าง โดยอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ว่าจะคลี่คลายเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามยังคงเป้าการเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 16 โครงการ มูลค่ารวม 2.4 หมื่นล้านบาท
“ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เผยว่า บริษัทเลื่อนเปิดคอนโดใหม่ 1 แห่ง จากเดิมจะเปิดตัวในไตรมาส 2/63 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการ Lock Down และการขอความร่วมมือเรื่อง Social Distancing แต่มองว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะคลี่คลายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยยังคงเป้าหมายปีนี้เปิด 30 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
“วิเชียร แพทยานันท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ้าพระยามหานคร (CMC) ระบุว่า ได้เลื่อนเปิดคอนโดประเภท High Rise ออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย แต่ยังคงเปิดโครงการ Low Rise ตามปกติ โดยปีนี้บริษัทมีความพร้อมเปิดตัว 7 โครงการใหม่ โดยมี 4 โครงการเป็นขนาด Low Rise ขณะเดียวกันจากผลกระทบดังกล่าวได้ปรับเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 2,400 ล้านบาท จากเดิม 2,700 ล้านบาท
3 รายอยู่ระหว่างพิจารณา
“ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา” ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ระบุว่า อยู่ระหว่างพิจารณาเลื่อนเปิดคอนโดใหม่ “ไอดีโอ พหล-สะพานควาย” ซึ่งเป็นโครงการเดียวที่จะเปิดตัวในปีนี้ มูลค่า 8,500 ล้านบาท จากเดิมจะเปิดขายช่วงปลายไตรมาส 2/63 โดยขอรอดูสถานการณ์ของโรคระบาดและการ Lock Down ก่อน แต่หากต้องเลื่อนออกไป เชื่อว่าจะยังคงเปิดตัวได้ภายในปีนี้
“วันจักร์ บุรณศิริ” ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เผยว่า กำลังพิจารณาเลื่อนเปิดตัวคอนโดใหม่ จากเดิมจะทยอยเปิด 4 โครงการตั้งแต่ไตรมาส 2/63 เป็นต้นไป ซึ่งขอติดตามสถานการณ์การ Lock Down และการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ก่อน คาดว่า 1-2 เดือนน่าจะได้ข้อสรุป
“ไพสิฐ แก่นจันทน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พราว เรียล เอสเตท (PROUD) เผยว่า อยู่ระหว่างทบทวนแผนลงทุนโครงการที่พักอาศัย 2 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท จากเดิมจะเปิดช่วงปลายปีนี้ โดยหากการระบาดของโควิด-19 คลี่คลายไม่เกินไตรมาส 3 แผนที่วางไว้ก็จะดำเนินไปตามปกติ แต่หากยังยืดเยื้อก็คงต้องเลื่อนไปอีก 3-6 เดือน หรือข้ามไปเปิดตัวปีหน้าเลย
กระหน่ำโปรฯเคลียร์สต็อก ดั๊มราคาแรง-อยู่ฟรี
ขณะเดียวกันพบว่า ผู้ประกอบการหลายรายปรับใช้กลยุทธ์ด้านการตลาดเพื่อเร่งระบายสต็อกในมือ โดยเฉพาะการลดราคามากกว่าเฉลี่ยปกติ รวมถึงโปรโมชั่นอยู่ฟรีนานสูงสุดถึง 3 ปี
“นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการเน้นมาใช้กลยุทธ์การตลาดในเชิงรุก สะท้อนจากการนำสินค้ามาลดราคาในอัตราที่สูงกว่าปกติ โดยข้อมูล 10 ปีย้อนหลังพบว่า ปกติจะมีการลดราคาเฉลี่ย 13% แต่ขณะนี้พบว่ามีการลดราคาเฉลี่ยสูงระดับ 30-40% โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมีเนียม
นอกจากนี้ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” สำรวจเพิ่มเติมพบว่า ผู้ประกอบการมีการจัดโปรโมชั่นผ่อนเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับลูกค้าช่วง 2-3 ปีแรก อาทิ บมจ.งออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI), บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF), บมจ.แสนสิริ (SIRI), บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH), บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เป็นต้น
กูรูคาดกำไรปีนี้ดิ่งหนักสุดรอบ 7 ปี
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โนมูระ พัฒนสิน ประเมินว่า กำไรสุทธิของกลุ่มอสังหาฯ ปีนี้จะลดลง 23% ต่ำสุดรอบ 7 ปี นับตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ปี 54 ขณะที่ยอดขายจะลดลง 11% และยอดโอนจะลดลง 10% เนื่องจากเป็นอุสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากมาตรการ LVT ซ้ำเข้าไปอีก ส่งผลต่อกำลังซื้อทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ
ขณะเดียวกันมีความเสี่ยงด้านฐานะการเงินมากขึ้น โดยคาดว่า อัตราส่วนหนี้ที่มีดอกเบี้ยต่อทุนของกลุ่มปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 0.97 เท่า จากการโอนที่มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ยังแบกสต็อกเหลือขายสูงกว่า 5.6 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันเริ่มมีความน่าเป็นห่วงตราสารหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดสูงถึง 6.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจจะมีปัญหาหากการโอนโครงการไม่เป็นไปตามแผน โดยยังคงคำแนะนำ “Bearish” สำหรับกลุ่มอสังหาฯ
ด้าน บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) คาดว่า ยอดขายโครงการในไตรมาส 2/63 จะยังอ่อนแอต่อเนื่อง เพราะการเปิดโครงการใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และยังมีความเสี่ยงต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง หากปัญหาโควิด-19 ยังไม่สามารถแก้ไขได้สำเร็จ จะส่งผลต่อทั้งยอดขายยอดโอนและกำไรสุทธิ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดประมาณการ โดยให้เลือกลงทุนรายบริษัท เน้นหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง
ขณะที่ “วิชัย วิรัตกพันธ์” รักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ประเมินว่า มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์โครงการอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะลดลง 14-17% จากปีก่อน ขณะที่จำนวนยูนิตในการการโอนกรรมสิทธิ์ จะลดลง 11-17% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี
ที่มา : www.efinancethai.com