ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District – CBD) โดยทั่วไปแล้วหมายถึงแหล่งพื้นที่ในเมืองซึ่งเป็นศูนย์รวมของกิจกรรมทางธุรกิจอันประกอบด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าและโรงแรม ศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพมหานครตั้งอยู่ในย่านสาทร สีลม เพลินจิต วิทยุ พระราม1 ราชดำริ ลุมพินี และสุขุมวิท โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านสุขุมวิทนั้นได้กลายเป็นแหล่งธุรกิจที่คึกคักมากในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา
“ในรอบศตวรรษนี้ เราเชื่อว่าจะไม่มีการโยกย้ายศูนย์กลางของเมืองไปยังจุดอื่นทั้งนี้ เนื่องจากระบบขนส่งมวลชนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นนั้นมีศูนย์กลางอยู่ในใจกลางเมือง อย่างไรก็ตาม เมืองหรือศูนย์กลางธุรกิจมีแนวโน้มที่จะขยายตัวไปตามแนวระบบขนส่งมวลชน ดังเช่นย่านรัชดาภิเษก”คุณริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาบริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า”ย่านธุรกิจแห่งใหม่ๆ จะกำเนิดเกิดขึ้นในย่านที่ระบบขนส่งมวลชนไปถึง ซึ่งจะทำให้กรุงเทพมหานครขยายตัวและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น”
ระบบรถไฟฟ้า MRT ที่แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2547มีส่วนสำคัญในการขยายความเจริญไปยังย่านรัชดาภิเษก ทำให้เกิดการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานหลายๆ โครงการขึ้นในบริเวณแยกรัชดาภิเษก-พระราม 9 จนทำให้ย่านนี้ได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐานะที่เป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตและขยายตัวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้โครงการพัฒนาอาคารสำนักงานคุณภาพสูง อาทิอาคาร G Land Tower อาคาร The Super Tower ซึ่งจะเป็นอาคารสูง 615 เมตร สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งอาคาร เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ (AIA Capital Centre) ล้วนมีส่วนช่วยกระตุ้นอุปสงค์จากบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ต้องการจะย้ายสำนักงานไปอยู่ในย่านรัชดาภิเษก-พระราม 9 นี้ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทยูนิลีเวอร์จำกัด (มหาชน) ได้ย้ายสำนักงานไปยังพื้นที่ดังกล่าวแล้วในปีนี้ ทั้งนี้ นอกจากปริมาณอุปทานด้านสำนักงานที่มีคุณภาพแล้ว รัชดาภิเษกยังเป็นย่านที่มีเส้นทางการคมนาคมที่เชื่อมต่อกับย่านศูนย์กลางธุรกิจ กอปรกับถนนรัชดาภิเษกและถนนพระราม 9 ที่เชื่อมต่อกับกรุงเทพฯฝั่งเหนือและกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วนอกจากนี้อัตราค่าเช่าพื้นที่สำนักงานในย่านนี้ยังมีการแข่งขันกันสูงมากอีกด้วย
คุณริษิณีกล่าวเสริมว่า “ในช่วงสองปีที่ผ่านมา บางนาก็ถือว่าเป็นอีกย่านหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองระดับย่อยแห่งใหม่ ซึ่งสามารถเดินทางเข้าถึงได้อย่างง่ายดายด้วยระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (BTS) ณ สถานีอุดมสุข บางนายังเป็นย่านที่เชื่อมต่อกับแหล่งนิคมอุตสาหกรรมทางภาคตะวันออกผ่านทางด่วนบางนา ซึ่งสร้างแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543รวมทั้งเชื่อมต่อกับกรุงเทพฯ ฝั่งใต้ผ่านทางมอเตอร์เวย์ ซึ่งสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2550บางนาได้ดึงดูดนักพัฒนาโครงการสำนักงานต่างๆ เช่น โครงการ Bhiraj Tower ที่ไบเทค ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2559 และโครงการSJ Infinite 2 บนถนนบางนา กม.8 ซี่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัท WHA คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ เดอะมอลล์กรุ๊ปยังได้ประกาศสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่าแบงคอค มอลล์ (Bangkok Mall) โดยจะตั้งอยู่บนพื้นที่รวมกว่า100 ไร่ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวประกอบด้วยพื้นที่สำหรับการประกอบธุรกิจ โครงการที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน สวนสนุกและสวนน้ำ ขณะเดียวกัน บางนายังเป็นย่านที่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจสนามบิน และโลจิสติกส์ ตลอดจนบริษัทที่มีโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมทางชายฝั่งทะเลตะวันออก ต่างให้ความสนใจอีกด้วย”
นอกจากนี้ การย้ายที่ตั้งศูนย์กลางของสถานีรถไฟของกรุงเทพฯจากหัวลำโพงไปยังสถานีกลางบางซื่อ ได้ส่งผลให้เกิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบเขตบางซื่อ สถานีกลางตั้งอยู่บนพื้นที่ 1,176 ไร่ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งหลักของกรุงเทพฯ โดยมีการเชื่อมต่อกับรถประจำทางสายต่างจังหวัดและเชื่อมโยงกับทางรถไฟและสถานีรถไฟใต้ดิน นอกจากนี้ เส้นทางรถไฟฟ้า 4 สาย คือสายเหนือ สายใต้ สายตะวันออกและสายตะวันตกของกรุงเทพฯจะมาเชื่อมต่อกับสถานีบางซื่ออีกด้วยบางซื่อยังอยู่ใกล้กับศูนย์กลางเชิงพาณิชย์หลายแห่ง เช่น Energy Complex เซ็นทรัลลาดพร้าวและตลาดนัดจตุจักร โครงการคอนโดมิเนียมยังได้รับการพัฒนาขึ้นจำนวนมากด้วยเช่นกัน เนื่องจากย่านดังกล่าวนี้มีเส้นทางคมนาคมหลายเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ คุณริษิณีกล่าวเพิ่มว่า “ย่านบางซื่อมีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเชิงพาณิชย์ และยังมีศักยภาพสูงในการซื้อขายและลงทุนด้านคอนโดมิเนียมอีกด้วย”
ศูนย์กลางของเมืองในกรุงเทพฯจะขยายตัวออกไปยังพื้นที่ที่ติดกับใจกลางเมือง “ผู้คนส่วนมากสะดวกใจที่จะอาศัยอยู่ในส่วนใดในเมืองก็ได้ แค่เพียงมีระบบขนส่งมวลชนที่บริการครอบคลุมทุกพื้นที่กรุงเทพฯ เราเชื่อว่าใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ ยังคงจะไม่มีการโยกย้าย แต่จะกระจายตัวไปตามย่านต่างๆ ที่มีการคมนาคมสะดวก ระบบขนส่งมวลชนเข้าถึง มีโครงการที่อยู่อาศัย และโครงการเชิงพาณิชย์ที่มีคุณภาพ รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในพื้นที่นั้นๆ”คุณริษิณีกล่าวสรุป
