The Element Rama 9 โครงการโฮมออฟฟิศใหม่ 5 ชั้นระดับพรีเมียม พร้อมลิฟท์โดยสารส่วนตัว จากแลนด์มาร์ค ดีเวลลอปเม้นท์ ทาเลใจกลางพระราม 9 ย่าน CBD ห่างจาก The Nine เพียง 150 เมตร ราคาเริ่มต้น 26.9 ล้านบาท
พิเศษสุด!! จองในวันงาน Open House 17 – 18 มีนาคม 2018 นี้ รับส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท
จุดขายสำคัญของโฮมออฟฟิศโครงการนี้นอกจากเป็นโครงการที่อยู่ใจกลางเมืองย่านพระราม 9 ที่มีความสะดวกสบายและอุดมสมบูรณ์สูงแล้วคือการที่โครงการเป็นโฮมออฟฟิศ 5 ชั้นที่มีลิฟต์โดยสารส่วนตัวเพราะหาโฮมออฟฟิศที่มีลิฟต์แบบนี้ได้ยาก แล้วบางธุรกิจที่มีการขนของขึ้นลงบ่อย อย่างเช่น ธุรกิจขายของออนไลน์ ธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์ แพคเกจจิ้ง หรือสตูดิโอถ่ายภาพ การมีลิฟต์เป็นเรื่องที่ช่วยอานวยความสะดวกให้กับธุรกิจได้อย่างมาก รายละเอียดทาเลและตัวโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย
ที่ตั้งโครงการ
ถนนพระราม 9 ตัดใหม่ ซอยพระราม 9 แยก 47 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. 10250
โครงการ The Element Rama 9 มีที่ตั้งอยู่ระหว่างซอยพระรามเก้า 41 และ 43 ห่างจากถนนใหญ่พระราม 9 ประมาณ 150 เมตร จัดเป็นทำเลทองของโฮมออฟฟิศ เนื่องจากใกล้ห้าง ใกล้ร้านอาหาร มีความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางสะดวก เชื่อมต่อเข้าออกได้หลายทาง ไม่ว่าจะถนนพระราม 9, ถนนรามคำแหง และถนนศรีนครินทร์ และอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 9 และมอเตอร์เวย์ เข้าออกเมืองสะดวก มีตัวเลือกในการเดินทางเยอะ
สำหรับคนใช้รถ The Element Rama 9 เป็นโครงการที่คนใช้รถสามารถเดินทางได้สะดวก เพราะเชื่อมต่อกับถนนสำคัญอยู่สามสาย คือ ถนนพระราม 9 ที่ นอกจากจะมีทางด่วนศรีรัช และจุดขึ้นลงทางด่วนด่านพระราม 9 อยู่ใกล้ๆแล้ว ยังใช้วิ่งเข้าเมืองโซน CBD อย่างสุขุมวิทได้สะดวก ใกล้ทองหล่อเอกมัย ในระยะขับรถเพียง 15 นาทีถึง
โดยข้อดีของที่ตั้งโครงการแบบนี้คือเวลาถนนพระราม 9 มีการจราจรหนาแน่น ก็สามารถลัดออก ถนนศรีนครินทร์ หรือ ถนนรามคำแหง จากโครงการได้เลยโดยไม่ต้องผ่านถนนพระราม 9 นั่นเอง
แยกและถนนสาคัญใกล้เคียง
• แยกพระราม 9 – ศรีนครินทร์ 1.6 กม.
• แยกบางกะปิ 5 กม.
• แยกรามคาแหง 2.6 กม.
• ถนนพระราม 9 180 ม.
• ถนนรามคาแหง 2.6 กม.
• ถนนศรีนครินทร์ 1.8 กม.
• ถนนลาดพร้าว 5 กม.
• เลียบทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ 2.6 กม.
• ถนนพัฒนาการ 2.7 กม.
• ถนนสุขุมวิท 71 5.7 กม.
อีกจุดเด่นของโครงการ The Element Rama 9 คือโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้น – ลงทางด่วนศรีรัชและมอเตอร์เวย์ ในระยะไม่ถึง 2 กม.โดยจากจุดลงทางด่วนศรีรัชมาโครงการ เป็นระยะทางประมาณ 1.2 กม. หรือระยะขับรถเพียง 1 นาทีเท่านั้น
และโครงการจะอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชซึ่งเชื่อมต่อกับถนนมอเตอร์เวย์ที่แยกพระราม9-ศรีนครินทร์ประมาณ 1.5 กม. ทำให้การเดินทางจากโครงการมาทางด่วนนั้นใช้เวลาโดยประมาณเพียง 2 นาทีเท่านั้น ทำให้เดินทางสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกเมือง ไม่ว่าจะไปสนามบินสุวรรณภูมิ ชลบุรี หรือเชื่อมต่อไปวงแหวนกาญจนาภิเษก ไปบางปะอิน อยุธยา ก็สามารถใช้มอเตอร์เวย์ไปได้สะดวก
สำหรับคนไม่ใช้รถ จาก โครงการ The Element Rama 9 เดินออกมาถนนใหญ่พระราม 9 ประมาณ 150 เมตร เท่านั้น โดยในซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์บริการวิ่งออกไปถนนสายสาคัญรอบโครงการทั้ง พระราม 9, ศรีนครินทร์ และรามคำแหง ซึ่งพอออกมาแล้วการเดินทางสำหรับคนไม่ใช้รถก็ถือว่าสะดวกสบายทีเดียว มีแท็กซี่, รถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์ผ่านตลอด และผ่านเยอะเพราะเป็นโซนใกล้มหาวิทยาลัยและใกล้โรงพยาบาล
นอกจากนี้ยังใกล้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอ่อนสายอนาคต รัชดา/ลาดพร้าว – พัฒนาการ โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีพัฒนาการ ซึ่ง เมื่อสร้างเสร็จก็จะเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้มากขึ้น เชื่อมต่อถนนสายสาคัญได้หลายเส้นทางและสามารถไปเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่แยกลาสาลีได้ในอนาคต
และยังอยู่ใกล้คลองแสนแสบ โดยจะมีท่าเรือโดยสารคลองแสนแสบ – สายนิด้า ซึ่งท่าเรือที่ใกล้โครงการที่สุดคือท่าเรือ สะพานมิตรภาพมหาดไทย หรือท่าเรือมหาดไทย ซึ่งก็สามารถใช้เป็นทางเลือกในการเลี่ยงรถติดเข้าเมืองได้ดีอีกทาง
สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศหรือไปสนามบินบ่อยๆ ความสะดวกและข้อดีอีกอย่างคือโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ โดยโครงการอยู่ใกล้แอร์พอร์ตเรลลิงก์สถานีหัวหมากในระยะประมาณ 2.5 กม. เท่านั้น นั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิหรือลาดกระบังได้สบายๆ
โครงการ The Element Rama 9 ตั้งอยู่บนทำเลโซนพระราม 9 ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากเพราะอยู่ใกล้ The Nine เพียง 150 เมตร ซึ่งเป็นระยะเดินสบายๆ และเป็นแหล่งใกล้มหาวิทยาลัยดังถึง 3 มหาลัย และใกล้โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ทำให้มีร้านอาหารและสิ่งอานวยความสะดวกในระยะเดินถึงมากมาย บริบทจะคล้ายๆย่านนิมมานเหมินทร์ที่เชียงใหม่ คือมีความเป็นเมืองเล็กๆที่ใกล้มหาวิทยาลัย ใกล้โรงพยาบาล รอบๆโครงการในระยะเดินมีร้านอาหาร มีคาเฟ่เก๋ๆ ผับ บาร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายหลากหลายร้าน
ห้าง The Nine เป็นห้างที่อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการเพียง 150 เมตร ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับโครงการได้มากจริงๆ เพราะเป็นระยะที่เดินมากินข้าว ช้อปปิ้ง ทำผม หรือมาธนาคารได้สะดวกสบาย แล้วเป็นห้างที่มีร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ ร้านขนมต่างๆเยอะมาก ซึ่งสำหรับโฮมออฟฟิศนี่ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างนึง คือพนักงานมีแหล่งกินข้าว พักกลางวัน นัดเลี้ยงต้อนรับหรือขอบคุณลูกค้าก็ง่ายเพราะมีร้านอาหารให้เลือกเยอะอยู่แล้ว
นอกจากนี้ The Nine พระราม 9 จะมีตลาดเสรีมาร์เก็ต ซึ่ง เป็นแหล่งจับจ่ายของสดและเครื่องอุปโภคบริโภคของโครงการ บนพื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร ภายในตลาดมีทั้งส่วน Food Court, ร้านอาหาร และส่วน Supermarket
โครงการ The Element Rama 9 ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยดังทั้ง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือที่เรียกกันว่าม. ABAC ใกล้ม.เกษมบัณฑิต และใกล้ม.รามคาแหง ใน รัศมีประมาณ 2 กม. ซึ่งโซนใกล้มหาวิทยาลัยนั้นก็ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของร้านอาหาร และสิ่งอานวยความสะดวกอยู่แล้ว เนื่องจากมีบรรดานักศึกษาและเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลจำนวนมาก ทำให้เกิดธุรกิจต่างๆผุดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการบริโภคด้านต่างๆ ของลูกค้าย่านนี้ที่มีปริมาณมากนั่นเอง
และยังมี ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นสนามกลางหรือสนามหลัก (Main Stadium) ที่ใช้เป็นสนามเหย้าของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ในปัจจุบัน และใช้จัดแข่งขันฟุตบอลนัดสำคัญต่างๆ นอกจากนี้ ยังใช้สำหรับจัดการแสดงดนตรี(คอนเสิร์ต)กลางแจ้ง มีศักยภาพรองรับผู้เข้าชมภายในอาคาร จำนวน 80,000 คนอีกด้วย ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการไปในระยะประมาณ 2 กม. เท่านั้น
ในระยะเดินใกล้ๆโครงการ ประมาณ 120 เมตร จะมีคาเฟ่ดังของย่านนี้ชื่อ ไล-บรา-รี่ หรือคาเฟ่ห้องสมุด ที่ภายในมีชั้นหนังสือขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยหนังน่าอ่าน จัดบรรยากาศแบบบ้านสวนสีขาว เปิดเพลงเบาๆแบบไม่รบกวนการอ่านหนังสือและบทสนทนาบนโต๊ะ และมีกาแฟดีๆพร้อมขนมอร่อยๆให้เลือกหลากหลายเมนู ใครหิวมาก็มีอาหารเบาๆรองท้องอย่างผักโขมอบชีส หรือเมนูประจาวันต่างๆ
ใน ระยะเดินไม่เกิน 350 เมตร รอบๆโครงการมีร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ที่เสิร์ฟเบียร์ดีๆ และร้านขนมอร่อยๆมากมายที่ล้วนแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าไปลองทั้งนั้น ถือเป็นโซนที่น่าอยู่และมีความอุดมสมบูรณ์สูงจริงๆ
สถานที่สาคัญใกล้เคียง
• The Nine 150 ม.
• ไล-บรา-รี่ 120 ม.
• มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 1.9 กม.
• มหาวิทยาลัยรามคาแหง 2 กม.
• มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 3.6 กม.
• โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ 2 กม.
• ราชมังคลากีฬาสถาน 2 กม.
• สนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา 4.6 กม.
• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ 3.7 กม.
• The Mall รามคาแหง 2.9 กม.
• The Mall 3 3.1 กม.
• Major รามคาแหง 3.3 กม.
• Big C 2.9 กม.
• The Mall บางกะปิ 4.4 กม.
• Makro 4.1 กม.
• ตะวันนา 4 กม.
ตัวโครงการ
The Element Rama 9 เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ (Home Office) 5 ชั้น ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งมีความพิเศษกว่าโฮมออฟฟิศทั่วไปคือมีลิฟต์โดยสารส่วนตัวมาให้ในแต่ละหลังด้วย
ลักษณะ ของ Homeoffice นั้นจะมีความแตกต่างกับ Townhouse และ Townhome ทั่วไป เพราะเป็นบ้านที่ออกแบบตั้งแต่แรกมาเลยว่าให้เป็นแบบกึ่งสำนักงานกึ่งบ้าน โดยจะมีส่วนฟังก์ชั่นการทำงาน และฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยของบ้านจัดวางอยู่ในอาคารหลังเดียวกันนั่นเอง
จุดเด่นที่เราจะได้จากการซื้อบ้านแบบโฮมออฟฟิศคือที่จอดรถที่มากกว่าบ้าน, ทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์ อย่างเช่นบ้านทั่วๆไปปกติจอดได้ 2 – 3 คันอย่างมาก แต่โฮมออฟฟิศจอดได้ 6 คัน เป็นต้น
The Element Rama 9 เป็นโครงการที่มีเฉพาะโฮมออฟฟิศ 27 ยูนิตเรียงกันเป็นแถวยาวแถวเดียวติดถนนภาระจายอมกว้าง 8 เมตร โดยเฟส 1 มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ และมีจานวนยูนิต 14 ยูนิต ส่วนเฟส 2 เป็นพื้นที่ในอนาคตรอการพัฒนา
แบบบ้านจะมีอยู่แบบเดียว คือโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น ที่จอดรถ 6 คัน หน้ากว้าง 7.5 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 450 ตร.ม. บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 53.7 – 85 ตร.ว. จะ เห็นว่าตัวบ้านไม่ใช้ลักษณะทาวน์โฮมติดกันยาวเหมือนโฮมออฟฟิศทั่วๆไป แต่จะเป็นบ้านแฝดเป็นคู่ๆ ผนังติดกันด้านนึงอย่างที่เห็นในภาพ
ตัวอาคารถูกออกแบบมาในสไตล์ Modern Luxury พร้อมการจัดสรรพื้นที่เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน ผสานรูปแบบสถาปัตยกรรม ที่สอดคล้องกับธรรมชาติรอบด้าน โดยใช้รูปทรงสีเหลี่ยมเรียบง่าย แต่เพิ่มมิติให้ตัวอาคารด้วยการใช้วัสดุที่หลากหลาย ทั้งเหล็ก ปูน กระจก และไม้
มีการคิดเรื่องพื้นที่ธรรมชาติในบ้านมาหลายส่วน เนื่องจากชั้นล่างถูกใช้เป็นที่จอดรถ ระเบียงชั้น 2 ถูกออกแบบมาให้มีกระถางต้นไม้ที่มีความลึกพอปลูกต้นไม้ใหญ่ได้ เพื่อบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติที่ร่มรื่นในส่วนชั้นสานักงาน และที่ชั้น 5 หรือชั้นบนสุดที่เป็นส่วน Master Bedroom
จะมีระเบียงขนาดใหญ่สำหรับจัดสวนชั้นดาดฟ้า เพื่อพักผ่อนหย่อนใจในสวนได้อย่างเป็นส่วนตัว
ผังบ้านชั้น 1 ตัว ผังจะมาเป็นโฮมออฟฟิศ 2 หลังติดกันด้านนึงโดยใช้โครงสร้างร่วมกันแบบบ้านแฝด โดยผังบ้านจะ Mirror หรือ กลับด้านกันอยู่ หน้าบ้านจะเป็นส่วนของที่จอดรถ สามารถจอดได้เต็มที่สูงสุด 6 คัน โดยจอดซ้อนแถวละ 2 คัน 3 แถว ด้านข้างที่ติดกับรั้วบ้านจะปูหญ้าและมีพื้นที่ทาสวนต่อเนื่องกันไปถึงลาน หลังบ้าน
ชั้นล่างเปิดเข้ามาจะเป็นห้องโล่งๆ แบ่งเป็นโซนส่วนรับแขก ที่ใช้เป็นพื้นที่คุยงาน หรือประชุมย่อยๆได้สบายๆ ติดผนังฝั่งใกล้ประตูจะเป็นลิฟต์ 1 ตัว ซึ่งอันนี้ถือเป็นจุดขายที่สำคัญของโฮมออฟฟิศโครงการนี้เพราะหาโฮมออฟฟิศที่มีลิฟต์แบบนี้ได้ยาก แล้วบางธุรกิจที่มีการขนของขึ้นลงบ่อย อย่างธุรกิจขายของออนไลน์ เป็นต้น การมีลิฟต์จึงเป็นเรื่องที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างมาก แล้วในภาพรวมการมีลิฟต์อยู่ในโฮมออฟฟิศ 5 ชั้นก็ดูหรูหราไม่ใช่เล่น
ถัดจากลิฟต์เข้ามาจะเป็นส่วนห้องน้าแยกชายหญิงติดกันอย่างละห้อง ซึ่งเป็นห้องน้าแบบ Powder Room คือไม่มีส่วนอาบน้า ติดกับมุมผนังท้ายห้องจะมีประตูเปิดออกไปส่วนลานหลังบ้าน ถัดมาจะมีบันไดขึ้นไปชั้น 2 และประตูเปิดไปห้องเก็บของใต้บันได
ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 มุมมองจากประตูทางเข้าอาคาร ออกแบบมาเป็นส่วนโถงต้อนรับ มีเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ และโต๊ะนั่งรอ/นั่งคุยงาน/ประชุมเล็กๆแบบไม่เป็นทางการมาให้ดูเป็นไอเดีย
ผังบ้านชั้น 2 ก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆเป็นพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับการใช้งานแบบออฟฟิศ มีระยะพอกั้นห้องได้ ในผังวางโต๊ะทำงานคร่าวๆมาให้ดูระยะว่าวางโต๊ะเก้าอี้ได้ประมาณกี่ชุด ติดกับลิฟต์เป็นห้องน้า 1 ห้อง เป็นแบบ Powder Room คือไม่มีส่วนอาบน้าเช่นกัน
ติดกับห้องน้า เป็นห้องวางคอยล์ร้อน หรือ CDU Condensing Unit มาให้เป็นสัดส่วน ทำให้ดูและรักษาได้ง่าย นอกจากลิฟต์และบันไดทางขึ้นไปชั้นบน จากชั้น 2 ขึ้นไปด้านหลังอาคารจะมีบันไดหนีไฟติดมาด้านหลังตามกฏหมายอาคารเพื่อความ ปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย และส่วนด้านหน้าอาคารจะมีระเบียงพร้อมกระถางต้นไม้ใหญ่สำหรับจัดสวน
ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 2 มุมมองส่วนสานักงาน ติดฉากกั้นห้องมาให้ดูเป็นไอเดีย จะเห็นว่าวางโต๊ะทำงานได้มากทีเดียว
ส่วนชั้น 3 จะเป็นส่วนสำนักงานเช่นกัน ผังห้องคล้ายกันกับชั้น 2 แทบทุกอย่าง แต่สามารถกั้นห้องเพิ่มได้ถึง 2 ห้อง สำหรับห้องประชุมและห้องทำงาน MD ในส่วนฝั่งด้านหน้าบ้าน
ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 3 มุมมองส่วนด้านหน้าอาคารที่กั้นห้องกระจกเป็นห้องประชุมและห้องทำงาน MD มาให้ ซึ่งก็เป็นฟังก์ชั่นที่สำนักงานส่วนใหญ่ต้องมี สังเกตว่าพื้นห้องส่วนห้องประชุมและห้องทำงาน MD จะเป็นพื้นไม้สีอ่อน ขณะที่พื้นชั้น 3 ส่วนอื่นจะเป็นกระเบื้องสีขาวครีม
ผังบ้านชั้น 4 จะเป็นส่วนที่พักอาศัย โดยลิฟต์จะขึ้นมาถึงชั้น 4 เป็นชั้นสุดท้าย ชั้น 5 นี่จะขึ้นบันไดจากชั้น 4 ขึ้นไป
โดย ส่วนชั้น 4 จะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และครัวเปิด ระยะใช้งานแบบ 3 – 4 คนอยู่ได้สบายๆ จัดเอาไว้ส่วนด้านหน้าบ้าน ตรงข้ามลิฟต์เป็นห้องนอนเล็ก มีระยะพอวางชั้นวางทีวี โต๊ะทางาน และตู้เสื้อผ้าในห้องได้ ห้องน้าพร้อมส่วนอาบน้า 1 ห้อง
ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 4 ส่วนห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และครัวเปิด ที่พื้นที่มีความต่อเนื่องกัน ทำให้รู้สึกกว้างขวางและยืดหยุ่นปรับแต่งได้ตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน
ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 4 ส่วนห้องรับประทานอาหาร และครัวเปิด มองไปห้องนั่งเล่น ที่พื้นที่มีความต่อเนื่องกัน
ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 4 ส่วนห้องนอนเล็ก จะเห็นว่าสามารถวางเตียงคู่ควีนไซส์ 5 ฟุตได้ และเหลือที่พอวางโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวีได้
ผังบ้านชั้น 5 หรือชั้นบนสุดที่เป็นส่วน Master Bedroom ชั้นนี้จะไม่มีลิฟต์ โดยสามารถเดินขึ้นลงบันไดไปใช้ลิฟต์ได้ที่ชั้น 4 ในห้องนอนใหญ่มีระยะพอวางเตียงคิงไซส์ และชุดโซฟานั่งเล่นอีกชุดได้สบายๆและมีห้องน้ากับ Walk in closet ในตัวซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว นอกจากนี้ชั้นนี้จะมีความพิเศษคือระเบียงขนาดใหญ่สำหรับจัดสวนชั้นดาดฟ้า เพื่อพักผ่อนหย่อนใจในสวนได้อย่างเป็นส่วนตัว
ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 5 ส่วนห้องนอนใหญ่ จะเห็นว่าสามารถวางเตียงคู่คิงไซส์ 6 ฟุต และเหลือที่พอวางชุดอาร์มแชร์ โต๊ะทำงาน ชั้นวางทีวี และ Bed Bench ปลายเตียงได้แบบสบายๆ
ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 5 ส่วน Walk in closet ทำตู้เสื้อผ้า Built in และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เห็นภาพระยะใช้งาน
ปัจจุบัน นักธุรกิจแนว Startup มากมาย ใช้การประกอบกิจการแบบโฮมออฟฟิศซึ่งถือเป็นรูปแบบที่ผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นกิจการ (Startup) นิยมกันมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากใช้เป็นบ้านพักอาศัยไปในตัวแล้วยังใช้ประกอบกิจการที่บ้านได้เลย โดยไม่ต้องเดินทางไปเข้าออฟฟิศทุกวันนั่นเอง
The Element Rama 9 เป็น โครงการโฮมออฟฟิศ 5 ชั้นทำเลใจกลางเมืองโซนพระราม 9 ที่อุดมสมบูรณ์ เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกสบาย ใกล้ทางด่วน พร้อมร้านอาหารและสิ่งอานวยความสะดวกโดยรอบมากมาย ตัวโครงการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานมาได้ลงตัว และมีความยืดหยุ่นสูง ทั้งส่วนบ้านพักอาศัยและสานักงาน สามารถปรับใช้พื้นที่ได้ตามการใช้งานที่แตกต่างกันไปในแต่ละกิจการ
จุดเด่นที่เราจะได้จากการซื้อบ้านแบบโฮมออฟฟิศคือที่จอดรถที่มากกว่าบ้าน, ทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์ อย่างเช่นบ้านทั่วๆไปปกติจอดได้ 2 – 3 คันอย่างมาก แต่โฮมออฟฟิศจอดได้ 6 คัน และโครงการนี้มีความพิเศษคือมีลิฟต์โดยสารภายในตัวบ้าน ซึ่งจัดเป็นฟังก์ชั่นหายาก ซึ่งช่วย
อำนวยความสะดวกให้กิจการหลายๆแบบได้ดี และให้ภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรา เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคนที่มองหาโฮมออฟฟิศใจกลางเมืองอย่างพระราม 9 และมีกาลังผ่อนประมาณเดือนละ 160,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Tel : 089-504-4554
Website : http://www.theelementrama9.com/
ที่มา : Homenayoo