นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)กล่าวว่าภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบออกร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่คูคต หลังจากที่มีเซ็นสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการกับผู้รับเหมาไปเมื่อเดือนที่ผ่านมาโดยความคืบหน้าในส่วนของการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในแนวสายทางเพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างนั้น ขณะนี้รฟม. ได้เริ่มเข้าพื้นที่เพื่อทำการสำรวจจุดเวนคืน โดยมีพื้นที่เวนคืนทั้งหมด 546 แปลงเป็นอาคารสิ่งปลูกสร้างจำนวน 275 หลังประชาชนที่ถูกเวนคืนประมาณ 262 ราย ซึ่ง ครม.ได้กำหนดงบประมาณในการดำเนินการทั้งสิ้น 7,900 ล้านบาท ทั้งนี้ รฟม.จะต้องเร่งดำเนินการสำรวจพื้นที่ให้เร็วที่สุด
เนื่องจากหากดำเนินการล่าช้าจะส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างงานด้านโยธาโดยตามกำหนดแล้ว รฟม.จะต้องมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาภายใน 150 วันหรือประมาณ 5 เดือน หลังจากลงนามเซ็นสัญญก่อสร้างสำหรับการดำเนินการส่งมอบพื้นที่นั้นรฟม. ได้มีการขอแผนการก่อสร้างจากผู้รับเหมามาดูรายละเอียดว่าจะดำเนินการจุดใดก่อนเพื่อที่ รฟม. จะได้เร่งรัดจุดเวนคืนให้สอดคล้องตามแผนเพื่อให้ทันงานก่อสร้างด้านโยธาแต่หากจุดใด รฟม. เห็นว่าอาจจะเวนคืนพื้นที่ได้ล่าช้าก็จะต้องหารือกับทางผู้รับเหมาปรับแผนการทำงานเพื่อให้การทำงานสอด คล้องกัน
นายพีระยุทธ กล่าวต่อว่าสำหรับพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สาธารณะ รฟม.ก็สามารถส่งมอบพื้นที่ให้แก่ผู้รับเหมาได้ทันทีเพราะมีการเจรจาขอให้พื้นที่กับหน่วยงานที่รับผิดชอบไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม รฟม.จะต้องเข้าไปไกล่เกลี่ยและเจรจากับเจ้าของพื้นที่เพื่อลดความขัดแย้งกับประชาชนซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใดทั้งนี้จุดที่ต้องมีการเวนคืนเยอะที่สุดจะอยู่บริเวณสถานี กม.25 และบริเวณศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถบริเวณสถานีคูคตสำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการประชาชนประมาณปี 2563.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
