ทำเลสาทร – พระราม 4 New Global Landmark ใจกลางเมือง

จากอดีตสู่ปัจจุบัน ถนนพระรามสี่มีความเจริญสูงขึ้นมากและที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการมีราคาสูงมากเช่นกัน ปัจจุบันที่ดิน Freehold บนถนนพระราม 4 มีราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่าตารางวาละ 1.5 ล้านบาท ที่ดินบนถนนพระราม 4 ส่วนใหญ่จะมีข้อจำกัดด้านกรรมสิทธิ์ โดยมากแปลงที่ดินที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่จะเป็นที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะเป็นการให้เช่าระยะยาว ปัจจุบันกลุ่มผู้พัฒนารายใหญ่อย่าง TCC และ FRASER ได้กรรมสิทธิ์การเช่าและอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ตลอดเส้นทาง และในช่วงปี พ.ศ.2562-2570 จะเป็นช่วงที่พลิกโฉมถนนพระรามสี่อย่างมีนัยสำคัญจากโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ทยอยเปิดให้บริการ ซึ่งมีตัวอย่างโครงการที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างโครงการสามย่านมิตรทาวน์, อาคาร The Parq, FYI Center โครงการที่กำลังพัฒนา เช่น One Bangkok, Dusit Central Parq, ศูนย์สิริกิติ์โฉมใหม่, จุฬา สมาร์ทซิตี้ และโครงการที่เตรียมพัฒนาในอนาคต เช่น โครงการ Silom Edge และเวิ้งนาครเขษม สำหรับโครงการ เวิ้งนาครเขษมแม้ไม่ได้อยู่บนถนนพระราม 4 แต่ก็อยู่บนถนนเจริญกรุงซึ่งอยู่ในแนวถนนที่ต่อเนื่องจากถนนพระราม4 ไป ทำให้ตลอดย่านพระราม 4 จะมีโครงการใหม่ทยอยเปิดตัวไปจนถึงปี พ.ศ.2570 ด้วยเม็ดเงินขนาดใหญ่กว่า 3 แสนล้าน เราค่อนข้างเชื่อมั่นว่าจะเกิดการพลิกโฉมย่านพระราม 4 ให้เปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็น Global Landmark ตามเป้าหมายของผู้พัฒนาโครงการ

ถนนแห่งสตาร์ทอัพ ศูนย์การค้าและศูนย์ประชุมนานาชาติ

ย่านถนนพระรามสี่ เป็นทำเลที่มีสถานศึกษาชั้นนำอย่างจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และโครงการเมกะโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นค่อนข้างมีพื้นที่สนับสนุนการทำงานในรูปแบบ Co-Working Space รวมถึงร้านกาแฟ เบเกอรี่ต่างๆ มีการออกแบบพื้นที่รองรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษาในการเข้าไปทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้เป็นอีกทำเลที่มีการคิดริเริ่มด้านเทคโนโลยีและธุรกิจสตาร์ทอัพจากคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ

ทั้งนี้ถนนพระราม 4 ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของ Bitkub ซึ่งเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นของประเทศไทยอีกด้วย นอกจากนี้ในอนาคตกำลังมีโครงการเมกะโปรเจกต์อย่างศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ปรับปรุงใหม่ ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า ที่เตรียมจะเปิดให้บริการในช่วงเดือน กันยายน พ.ศ.2565 นี้ ซึ่งจะเป็นสถานที่รองรับอุตสาหกรรมไมซ์ พร้อมรับผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 100,000 คนต่อวัน ตอกย้ำการเป็นศูนย์ประชุมใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย (ไมซ์ คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการ) อีกโครงการที่มีคอนเซปต์น่าสนใจโดยผู้พัฒนาตั้งใจพัฒนาให้เป็น The new sandbox community in CBD สนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพ คือ โครงการสีลม เอดจ์ ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนสีลม ยังมีโครงการเวิ้งนาครเขษม ที่จะพัฒนาเป็นมิกส์ยูส ที่มีทั้งโรงแรม Intercontinental และพื้นที่ค้าปลีก

นอกจากนี้ยังมีสวนลุมพินีที่จะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในโอกาสครบรอบ 100 ปี  มีเป้าหมายที่จะให้สวนลุมพินีเป็นต้นแบบของสวนสาธารณะที่เป็น “มากกว่าสวนสาธารณะ” ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่ออกกำลังกาย ยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนเมืองอีกด้วย และสวนเบญจกิติเฟสใหม่ ณ ปัจจุบันมีการต่อเติมเฟส 2 ให้เป็นสวนสาธารณะที่มี skywalk ให้เดินเล่นกันเพลินๆ อีกทั้งในอนาคตจะมีการพัฒนาเฟส 3 ด้วยคอนเซป ‘ป่าในเมือง’ โดยระยะที่ 2 – 3 จะมีพื้นที่ทำการเกษตรแบบ Urban Farm ผลิตอาหารให้กับคนเมือง มีการจัดสวนแบบวนเกษตร ปลูกพืชพื้นบ้าน พืชในพื้นที่ริมคลอง ทั้งหมดจะกลายเป็นพื้นที่การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศต่างๆเพื่อคนในเมือง และเปรียบเสมือนแม็กเนทดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่าภาพอนาคตย่านพระราม 4 กำลังจะพลิกโฉมไปสู่ความเป็น Global Landmark ความคึกคักของธุรกิจใหม่ๆ และเม็ดเงินที่จะเข้ามาหมุนเวียนอีกมหาศาลจะผลักดันให้ทำเลนี้มีราคาที่ดิน ราคาค่าเช่าพื้นที่พาณิชย์และที่อยู่อาศัย ขยับสูงขึ้นในระดับแถวหน้าของประเทศอย่างแน่นอน

สวนลุมพินี

• 

• 

สวนเบญจกิติเฟสใหม่

• 

• 

THE CROWN RESIDENCES – FREEHOLD LUXURY CONDOMINIUM ON RAMA 4

โครงการ “เดอะคราวน์ เรสซิเดนท์เซส” (The Crown Residences) คอนโดมิเนียมไฮไรซ์ระดับลักซ์ชัวรี่ บนทำเลศักยภาพย่านพระราม 4 สูง 32 ชั้น ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตน้อย เพียง 183 ยูนิต มีมูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อทุกความสะดวกสบายใจกลาง Hub of Bangkok Connections ที่เชื่อมต่อ 2 CBDs ทั้งสุขุมวิทและสาทร-สีลม ตัวโครงการอยู่ติดถนนพระราม 4 พร้อมเชื่อมต่อทุกการเดินทาง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทั้งสถานีคลองเตยและสถานีลุมพินี รวมถึงจุดขึ้นลงทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร เพียง 5 นาที มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครับตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Exclusive ที่เหนือกว่า ในราคาเฉลี่ยที่ 250,000 บาท/ตร.ม. เท่านั้น ที่สำคัญเป็นโครงการที่ซื้อขายสิทธิ์ขาดด้วย นอกจากความคุ้มค่าในแง่ของราคา ทำเลและการถือกรรมสิทธิ์ผูกขาดแล้วนั้น ตัวโครงการ The Crown Residences ยังให้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการรวมถึงจุดเด่นของโครงการเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ โดยมีรายละเอียดดังนี้

จุดเด่นของโครงการ

• แนวความคิดโครงการที่เรียกว่า “Living Among The Stars Only 183 Units” อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อยู่ท่ามกลางสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 3 สวน ที่มองเห็นจากโครงการแบบ Panorama เหมาะแก่การพักผ่อนในทุกๆ เวลาของการอยู่อาศัย
• เป็นโครงการระดับลักชัวรี่ที่ขายในลักษณะ Freehold แต่มีราคาขายเท่ากับโครงการที่เป็น Leasehold
• Unblocked View ทุกยูนิต โดยยูนิตฝั่งทิศเหนือ ตะวันออกและตะวันตกสามารถมองเห็นวิวกว่า 850 ไร่ ของสวนเบญจกิตติ สวนลุมพินี และสวนสาธารณะในโครงการวัน แบงค็อก ในขณะที่ยูนิตฝั่งทิศใต้ก็สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า
• สิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นเอกลักษณ์ในโครงการ
• ชมวิวสวนเบญจกิติ สวนลุมพินี และแม่น้ำเจ้าพระยาบนยอดตึก บริเวณชั้น 32 ของโครงการ
• ชั้นดาดฟ้าของ Starry Night สามารถชมวิวสวนสาธารณะแบบพาโนรามาพร้อมสระน้ำไร้ขอบและที่นั่ง Aqua Sunken, เพดาน Sparkling Star, อ่างจากุซซี่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจรวมถึงสระว่ายน้ำเด็กเล็ก
• นอกจากนี้ยังมี Crystal Lounge ที่ประกอบด้วยฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น Crown Bar, All-Day Dining, Fitness Club และ Lounge ทั้งฝั่ง Parkside & Riverside
• Concierge Services ประกอบด้วยบริการทำความสะอาด บริการซื้อของชำ, บริการข้อมูล, บริการย้ายเข้า, บริการต้อนรับและบริการจองรถลีมูซีน / แท็กซี่ออนคอล, Doorman, Bellboy และ Food Pick-ups & Deliveries
• รูปแบบสถาปัตยกรรมและโครงสร้างอาคาร ออกแบบโดยบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่น่าเชื่อถือ ได้แก่ DESIGN CONSULTANT Architect by TANDEM / Interior by BE GREY / Landscape by IXORA / M&E by MITR / Structure by INFRA

จุดเด่นของทำเล

• ตั้งอยู่ใจกลางระหว่าง CBD ที่สำคัญของกรุงเทพฯ (สุขุมวิท & สีลม/สาทรและลุมพินี)
• เชื่อมต่อทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านที่เป็นใจกลาง Hub of Bangkok Connection พระราม 4 จึงเป็นทำเล Ultra CBD เชื่อมต่อพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ใจกลางเมืองแต่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติจากวิวสวนทั้ง 2 ฝั่ง คือสวนลุมพินีและสวนเบญจกิตติ
• เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวได้สะดวกเพราะใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วนเพียงแค่ 4 นาทีก็ถึงด่านเก็บเงินทางพิเศษฉลองรัช
• อยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 2 สถานี ได้แก่ สถานีลุมพินี และสถานีคลองเตยโดยสามารถเดินไปยังสถานีได้โดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านอยู่ในย่านที่เชื่อมต่อกัน

ห้างสรรพสินค้า
One Bangkok, Central Embassy, Central Chidlom, Siam Paragon, Velaa Sindhorn village Langsuan, The Market Place นางลิ้นจี่

โรงพยาบาลชั้นนำ
MedPark, BNH, BDMS Wellness Clinic และ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

ร้านอาหารชื่อดัง
Michelin star café, ร้าน Omakase, Fine Dining และ Art Gallery

การออกแบบ Layout ห้อง

การออกแบบ Layout มีให้เลือกถึง 3 ขนาด ซึ่งในแต่ละห้องออกแบบพิเศษเพื่อให้ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยดังนี้

1 ห้องนอน ขนาด 27.3 ตารางเมตร ตัวห้องออกแบบพิเศษให้มี Bay Window สามารถเปิดมุมมองไปยังสวนสาธารณะได้มากขึ้น

1 ห้องนอน Signature ขนาด 39.40 ตารางเมตร เป็นห้องที่ออกแบบการเล่นระดับของระเบียงสลับกันทั้งซ้ายและขวาเพื่อเปิดรับวิวแบบ Utmost Park View ทำให้ระเบียงทุกยูนิตสามารถรับวิวสวนได้อย่างเต็มตาทั้งวิวสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ ห้องพักนี้จึงมีความพิเศษของระเบียงที่ถูกเรียกว่า Double-Park Frontage View ซึ่งทั้งโครงการมีเพียง 10% เท่านั้นที่ออกแบบหันบิดองศาให้เห็นวิว ที่ระเบียงเปิด

2 ห้องนอน ขนาด 61.5 ตารางเมตร เป็นฟังก์ชั่นห้องหน้ากว้างแบบ Wide Frontage ที่ทำให้สามารถเปิดมุมมองเห็นวิวได้อย่างต่อเนื่องแบบ Unlimit ถึง 9 เมตร ทุกห้องออกแบบให้มีหน้าต่าง ซึ่งการทำห้องหน้ากว้างในตลาดปัจจุบันมี Supply ค่อนข้างน้อย แต่มี Demand สูง ถือเป็นห้องที่เป็น Rare Items ในตลาด

โดยแนวความคิดในการออกแบบห้องจะเน้นความเป็นส่วนตัว ที่เห็นทัศนียภาพธรรมชาติของสวนสาธารณะและแม่น้ำเจ้าพระยา โดยออกแบบ Façade ให้ทุกห้องรับวิวธรรมชาติด้วยการไล่ระดับของระเบียงสลับซ้าย-ขวา เพื่อเปิดรับวิวแบบ Utmost Park View ทำให้ระเบียงของทุกห้องสามารถมองเห็นและผ่อนคลายไปกับธรรมชาติอย่างเต็มความรู้สึกเหนือพื้นที่สวน 850 ไร่

ลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษได้ ที่นี่
อ่านรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่นี้ คลิก