เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่ากทม.ได้ดำเนินการเจรจาหาข้อสรุปกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เรื่องการบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการเนื่องจากเป็นโครงการที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสของ กทม. ซึ่งมีความพร้อมที่จะรับโอนเพื่อบริหารจัดการเดินรถให้มีความต่อเนื่องตลอดเส้น ทางโดยในโครงสร้างส่วนดังกล่าวการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ลงทุนค่าก่อสร้างจำนวนกว่า 19,000 ล้านบาทนั้น กทม. ก็พร้อมใช้คืนให้แก่ รฟม.แต่อาจต้องขอการสนับสนุนจากรัฐบาลในส่วนของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ทาง รฟม. กู้เงินมาลงทุนก่อสร้างเพื่อไม่ให้กระทบกับค่าโดยสารของประชาชนในอนาคตเนื่องจากอัตราค่าโดยสารต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วยส่วนเงินต้น กทม. อาจต้องทำการกู้เงินจากสถาบันการเงินมาชำระแก่ รฟม. ซึ่งการชำระคืนค่าก่อสร้างกทม. อาจไม่สามารถชำระได้หมดภายในครั้งเดียวแต่อาจต้องแบ่งการผ่อนชำระตามความเหมาะสมต่อไปซึ่งในส่วนนี้จะมีการหารือกับทางรฟม.และรัฐบาลเพื่อวางกรอบทางชัดเจนอีกครั้ง
นายอมร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้าสายดังกล่าวมีส่วนที่ยื่นออกไปในเขตจังหวัดสมุทรปราการซึ่งติดข้อกฎหมายของกรุงเทพมหานครในการบริหารจัดการนอกเขตพื้นที่ดังนั้น กทม.จะต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภา กทม.เพื่อขอดำเนินการนอกเขตพื้นที่ให้เกิดความถูกต้องตามข้อกฎหมายซึ่งตนจะเร่งดำเนินการยื่นเรื่องต่อผู้บริหาร กทม.เพื่อนำเสนอสภา กทม.พิจารณาอย่างเร็วที่สุดภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ สำหรับค่าโดยสารในการเดินทางปัจจุบันในเส้นทางส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าบีทีเอสจากอ่อนนุช-แบริ่งซึ่งเป็นส่วนที่ กทม.ลงทุนก่อสร้างแยกจากส่วนสัมปทานเดิม กทม.ได้ลดค่าโดยสารตามนโยบายผู้ว่าฯกทม.เก็บค่าโดยสารคงที่ในอัตรา 10 บาท แต่ในเส้นทางช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการที่กทม.จะรับบริหารจัดการเดินรถนั้นเป็นเส้นทางที่อยู่นอกพื้นที่กทม.ไม่สามารถลดค่าโดยสารได้เนื่องจากงบประมาณที่ใช้สนับสนุนการเดินทางของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯจะไม่สามารถนำมาใช้นอกเขตพื้นที่ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อกทม.เข้าดำเนินการบริหารจัดการเดินรถ เรื่องค่าโดยสารอาจต้องมีการเจรจาหารือวางแนวทางที่เหมาะสมกับทางจังหวัดสมุทรปราการอีกครั้ง
ทั้งนี้สำหรับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทร ปราการมี 9 สถานีระยะทาง 13 กม.ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างแล้ว กว่า 60% มีกำหนดจะแล้วเสร็จประมาณปี 60 แต่ตามกำหนดเดิมจะเปิดให้บริการในปี 62
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
