นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงมีแผนที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่อง ปีละประมาณ 2-3 โครงการ ทั้งในรูปแบบของคอนโดมิเนียม และวิลล่า มูลค่าโครงการละประมาณ 600-700 ล้านบาท โดยทุกโครงการจะใช้เชนระดับมืออาชีพเข้าไปบริหารงาน ซึ่งจะช่วยให้โครงการมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการที่3“Best Western Premier BayPhere Pattaya”ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ สูง 8 ชั้น ขนาด 30-33 ตารางเมตร จำนวน 174 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 3.2 ล้านบาท หรือ เริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 107,000 บาท มูลค่าโครงการกว่า 700 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อการลงทุน และลูกค้าที่ซื้อห้องชุดต้องเข้าโปรแกรมซื้อและปล่อยเช่าระยะยาว 30 ปี และสามารถต่อได้อีก 30 ปี ในราคาเช่า 3,000-5,000 บาท/คืน บริหารงานโดยเชนดัง “เบสท์ เวสเทิร์น”(Best Western) จากสหรัฐอเมริกา วางระบบบริหารจัดการการเช่ามาตรฐานระดับโรงแรม สร้างกำไรให้นักลงทุน ซึ่งให้ผลตอบแทนแบบการันตีค่าเช่า 7% ต่อปี เป็นระยะเวลานานถึง 5 ปี ซึ่งบริษัทฯจะจ่ายให้กับลูกค้าทุกๆเดือน หลังจาก 5 ปีแล้ว บริษัทฯจะนำผลกำไรมาแชร์กับค่าเช่า โดยแบ่งผลกำไร 60 / 40 หมายถึง ลูกค้ารับผลตอบแทน จากกำไรของการบริหารการเช่าถึง 60 % จากผลกำไรทั้งหมด รวมถึงมูลค่าของสินทรัพย์ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นในอนาตคด้วย และได้รับสิทธิ์ในการพักผ่อนคอนโดฯ ที่มีระบบริหารจัดการแบบโรงแรมสี่ถึงห้าดาวได้ถึง 14 วันต่อปี ซึ่งจะเปิดพรีเซลในวันที่ 3-4 กันยายน 2559 นี้ บริหารงานขายโดยบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปลายปี 2559 นี้
ด้านพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพ มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 9 ล้านคนต่อปี โดยเฉพาะจากประเทศรัสเซีย จีน อินเดีย ตะวันออกกลางและเอเชีย ปัจจุบันมีสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวบินตรงถึงพัทยาได้ เช่นจากสิงคโปร์ มาเก๊า กัวลาลัมเปอร์ หนานชาง หนานหนิง และประเทศจีน ทั้งนี้ แนวโน้มของตลาดพัทยายังคงขยายตัวได้จากโครงการพัฒนาของรัฐ เช่น โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ซึ่งจะบริหารงานโดยองค์กรอิสระและเป็นการสนันสนุนการลงทุนภาคอุตสาหกรรม ซุปเปอร์คลัสเตอร์และ 10 กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งคาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นภายในปี 2560 มากกว่า 500,000 ล้านบาท และยังมีนิคมอุตสาหกรรมอยู่ในระหว่างการเตรียมพัฒนานิคมอีก 11 นิคม ซึ่งเป็นการเพิ่มการลงทุนในพื้นที่ ทำให้เกิดการขยายตัวของการจ้างงานในภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของรัฐบาล ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้พัทยาเป็นศูนย์กลางของพื้นที่บริเวณนี้ในการรองรับบุคคลที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ รวมถึงการขยายตัวของนักท่องเที่ยวทั้งจากในพื้นที่ กรุงเทพฯและต่างประเทศ
CR: http://www.prop2morrow.com/home/news/535