ในยุคนี้เทรนการรักษ์โลกกำลังมาแรง แต่ก็ไม่ทิ้งเทคโนโลยีที่มีการนำเอา Smart Living มาใช้กันมากขึ้น และพื้นที่สีเขียวไว้พักผ่อนหย่อนใจ มีรับรองมาตรฐานด้วย LEED อาคารสีเขียวที่มีระบบการรับรองอาคารอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งการเดินทางสะดวก และระบบความปลอดภัย ทำเล ร้านค้าร้านอาหาร และพื้นที่สำนักงานที่เน้นตอบโจทย์การใช้ชีวิต ไม่ใช้แค่มาทำงานอย่างเดียว ให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานตัวอาคารได้อย่างเต็มที่ วันนี้ไนท์แฟรงค์พามาอัพเดทกับออฟฟิศที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นในอนาคต มาดูกันว่าแต่ละอาคารมีอะไรบ้าง
1. The Rice
THE RICE by SRISUPHARAJ (เดอะ ไรซ์ บาย ศรีศุภราช) อาคารสำนักงาน และร้านค้าสูง 28 ชั้น 1 ชั้นใต้ดิน เปลี่ยนห้างดังในอดีตพร้อมสร้างตำนานบทใหม่ในรูปแบบอาคารที่ทันสมัย ตั้งอยู่บนพื้นที่อาคารเก่าแก่บริเวณสี่แยกสะพานควาย มีที่ดินรวมเกือบ 4 ไร่ เป็นพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสำคัญอย่าง BTS สายสุขุมวิท (หมอชิต-อ่อนนุช) เน้นพื้นที่ใช้สอยอย่างครบวงจรรวมทั้งยังออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาโปรเจกต์มิกส์ยูซนี้ เพื่อรองรับการเติบโตและการขยายของเมืองจากสถานีกลางบางซื่อที่ถือกำเนิดขึ้นและกลายเป็นศูนย์กลางคมนาคมสำคัญของประเทศไทย
2. Vanit Place Aree
วานิชเพลซ อารีย์ อาคารสำนักงานระดับพรีเมียม และแหล่งศูนย์รวมร้านอาคารแห่งใหม่ย่านอารีย์ ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอารีย์เพียง 200 เมตร และห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสนามเป้า 450 เมตร และด้านหน้าของโครงการมีป้ายรถประจำทางเพื่อความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้ โครงการอยู่ไม่ไกลจากทางพิเศษศรีรัชและทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) อีกทั้งยังตอบโจทย์ของย่านอารีย์ด้วยพื้นที่จอดรถกว่า 600 คัน
วานิชเพลซ อารีย์เป็นอาคารรีเทล 4 ชั้น ติดริมถนนพหลโยธิน พื้นที่รวม 3,000 ตร.ม. โดยจะทำให้เป็นศูนย์กลางการรวมตัวแห่งใหม่ของย่านอารีย์ ด้วยแนวคิดที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง และที่จอดรถสะดวกสบายสำหรับลูกค้า วานิช วิลเลจ ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนเพื่อทำกิจกรรมส่วนตัว ออกกำลังกาย ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนๆ หลังเลิกงาน พาครอบครัวมารับประทานอาหารในวันหยุด หรือพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศก็ได้
3. One Bangkok
One Bangkok มหานครแห่งอนาคต เติมเต็มชีวิตในเมืองยุคใหม่อย่างยั่งยืน ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ย่านพระราม4 เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนที่หลากหลายเดินทางสะดวก สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับไลฟ์สไตล์หรู การจัดแบ่งพื้นที่ที่หลากหลาย เป็นทั้งสำนักงาน ที่อยู่อาศัย ร้านค้า และโรงแรม ถือเป็นโครงการสำนักงานที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ภายในโครงการประกอบด้วย 5 อาคารพาณิชย์เกรดเอ บนพื้นที่กว่า 500,000 ตร.ม. มาพร้อมกับพื้นที่สำนักงานระดับพรีเมียมและเวิร์กสเปซที่มีความยืดหยุ่นคล่องตัวมากมาย การออกแบบที่เน้นประโยชน์ด้านสุขภาพ ความยั่งยืน และเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ส่งผลให้ One Bangkok โดดเด่นในฐานะสถานที่ที่ธุรกิจและการพักผ่อนบรรจบกันได้อย่างลงตัว ณ ปัจจุบันปี 2565 กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการก่อสร้าง คาดการณ์ว่าเฟสแรกจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2566
ทางโครงการมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ตัวอาคารและภูมิทัศน์ทั้งหมดของโครงการได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED Neighborhood Development Platinum โดยหลายอาคารมีเป้าหมายที่จะได้รับการรับรองมาตรฐาน WELL Platinum ด้วย
4. The Unicorn
The Unicorn โครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันพร้อมด้วยนวัตกรรม บนถนนพญาไท ตัวอาคารสูง 51 ชั้น ประกอบไปด้วย สำนักงานเกรดเอ โรงแรมหรู Eastin Grand Phayathai ห้องจัดเลี้ยง ห้องประชุม ร้านค้าปลีก ศูนย์อาหาร สร้างและออกแบบเพื่อรับมาตรฐานอาคารเขียว (LEED Gold Green Building CertifiedTM) จากสหรัฐฯ พื้นที่สำนักงานให้เช่า รวมกว่า 120 – 1,800 ตร.ม. ปราศจากเสากั้นกลาง ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3 เมตร ที่จอดรถกว่า 900 คัน เชื่อมต่อโดยตรงสู่ BTS สถานีพญาไท แอร์พอร์ตลิ้งก์ ด้านหน้าอาคาร ในอนาคตเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง และ สีเขียวอ่อน
5. True Digital Park Phase II
True Digital Park Campus (New Development) เชื่อมต่อตรง BTS ปุณณวิถี คาดว่าแล้วเสร็จ Q2 ปี 2565 ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจแห่งใหม่ ใจกลาง Bangkok CyberTech District บนถนนสุขุมวิท พื้นที่โครงการทั้งหมด 45,000 ตร.ม. พื้นที่ชั้นสำนักงานเกรดเอ ตั้งแต่ชั้นที่ 4-12 เพดานสูง 3.55 เมตร/ชั้น ลิฟ์ต์จำนวน 12 ตัว มีพื้นที่ค้าปลีก 15,000 ตร.ม. ด้วยแนวคิดพื้นที่ในการสร้างพื้นที่เพื่อความพร้อมในอนาคต co-living, co-learning และ co-creating เป้าหมายรองรับ WELL Gold CertificationTM ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตผู้ใช้อาคาร และ TREES CertificationTM มาตรฐานอาคารเขียวเพื่อความยั่งยืน พื้นที่สีเขียวของที่นี่คิดเป็น 33% ของพื้นที่ทั้งโครงการพร้อมสวนลอยฟ้า พร้อมรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมช่วยลดพลังงาน
นอกจากนี้ตัวอาคารสำนักงานยังมีฟังชั่นต่างๆอีกมากมายทั้ง ระบบจดจำใบหน้า Sky Track – ลู่วิ่ง 550 เมตร กิจกรรมและอีเว้นท์สำหรับสมาชิกที่อยู่ในอาคารพื้นที่ส่วนกลางที่มีสามารถมานั่งทำงานได้ 3,500 ตร.ม. พื้นที่เตรียมอาหาร เล่นเกม ห้องนวด สตูดิโอ ห้องสวดมนต์สำหรับทุกศาสนา ห้องคุยโทรศัพท์ ห้องประชุม ห้องคุณแม่ พื้นที่ออกกำลังกาย เลาจน์ และพื้นที่เอกประสงค์อื่นๆ
6. Sukhumvit Hills
Sukhumvit Hills เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าบนถนนสุขุมวิท ตัวอาคารสุขุมวิท ฮิลล์ ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 58 อยู่ระหว่างรถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช กับ สถานีบางจาก จุดเด่นของอาคารสุขุมวิท ฮิลล์ อยู่ที่ระบบแอร์ที่เป็น Split Type สามารถเปิดปิดแอร์เองได้ ทำงานได้ 24 ชั่วโมง 7 วัน ซึ่งค่อนข้างหายากที่จะมีตึกออฟฟิศเกรด A ให้เช่าที่ใช้แอร์ระบบนี้ โดยอาคารสุขุมวิท ฮิลล์ มีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมดประมาณ 10,000 ตร.ม.
ตัวอาคารสำนักงานได้รับการออกแบบเพื่อรองรับวิถี New Normal อย่างแท้จริง โดยเลือกใช้แผ่นกรองอากาศสำหรับเครื่องปรับอากาศชนิดละเอียดพิเศษ MERV 14 สามารถกรองเชื้อไวรัส แบคทีเรียและฝุ่น pm 2.5 ได้กว่า 90% นอกจากนี้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในอาคารยังใช้เป็นระบบเซ็นเซอร์ ลดการสัมผัสเพื่อสุขอนามัยที่ดี พร้อมจัดที่จอดสำหรับชาร์จรถไฟฟ้า
7. KingBridge Tower
KingBridge Tower อาคารสำนักงานติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนถนนพระราม3 เป็นอาคารสำนักงานรูปแบบ Smart Building พื้นที่อาคารรวมกว่า 85,000 ตร.ม. บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ จำนวน 43 ชั้น ลิฟต์ใช้งานทั้งหมด 15 ตัว เน้นความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และมุ่งสู่การขอรับมาตรฐาน ได้แก่ LEED Gold และ Fitwel ระดับสูงสุด 3 ดาว เน้นความเป็นมิตรต่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร และสิ่งแวดล้อมผ่านแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยให้กลมกลืนไปกับพื้นที่สีเขียว เพื่อความสะดวก ปลอดภัย และผ่อนคลายด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร เช่น ระบบตรวจจับใบหน้าด้วยเทคโนโลยี AI, สถานีชาร์จ EV
โครงการ KingBridge Tower ได้เลือก Mott Macdonald บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาระดับโลกที่มีผลงานมากมาย เช่น การออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างสะพานภูมิพล, ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์, Silicon Valley BART Extension มาร่วมดีไซน์โครงสร้างอาคาร เพื่อให้เป็นโครงการที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร สำหรับภายในอาคารประกอบด้วย พื้นที่สำนักงาน Co-working Space Healthy Canteen สวนแนวตั้ง ลู่วิ่ง และ Rooftop Restaurant สามารถปรับพื้นที่ให้กลายเป็น Event Space เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567