นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการบริหาร บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาตลาดวิลล่าในภูเก็ตค่อนข้างที่จะดี มีวิลล่าที่ขายได้แล้วทั้งสิ้น 2,965 หน่วย จากอุปทานทั้งสิ้น 3,908 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 75.9 ถึงแม้ว่าอัตราการขายจะลดลงจากปีก่อนหน้าที่ขายได้ในอัตราร้อยละ80.5 อันเนื่องมาจากในปี พ.ศ. 2562 มีอุปทานใหม่วิลล่าเพิ่มขึ้นมาสูงถึง 794 หน่วย ถึงแม้ว่าอัตราการขายจะลดลง แต่จำนวนหน่วยขายใหม่ของวิลล่าในภูเก็ตในปี พ.ศ. 2562 สูงที่สุดในรอบ 8 ปี คือ มีจำนวนหน่วยขายใหม่ได้ทั้งสิ้น 459 หน่วย หากเทียบกับจำนวนหน่วยขายเฉลี่ยต่อปีในระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมา วิลล่าในภูเก็ตขายใหม่ในแต่ละปีเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 250 หน่วย
นายณัฏฐา ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับรูปแบบวิลล่าที่ขายดีในปี พ.ศ. 2562 วิลล่าประเภท 2 ห้องนอน ที่มีระดับราคาขายอยู่ระหว่าง 15 – 25 ล้านบาท รองลงมาได้แก่วิลล่าประเภท 1 ห้องนอน ที่ระดับราคา 7 – 10 ล้านบาท ในส่วนบริเวณที่ตั้งที่เป็นที่นิยมของวิลล่าที่ขายดีใน ปี พ.ศ. 2562 คือ บริเวณหาดบางเทา หาดกมลา หาดป่าตอง และ หาดราไวย์ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน มีศูนย์การค้า ร้านอาหาร ผับ โดยบริเวณหาดบางเทามีศูนย์การค้าที่เพิ่งเปิดให้บริการใหม่เมื่อปลายปี พ.ศ. 2562 คือ โครงการปอร์โต เดอ ภูเก็ต พัฒนาโดยกลุ่มเซ็นทรัล เป็นศูนย์การค้าแบบเปิดแห่งแรก เน้นร้านอาหาร ผับ สถานที่ดื่มกิน ส่วนบริเวณหาดป่าตองเป็นบริเวณที่มีศูนย์การค้า สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บริเวณหาดราไวย์ มีสถานที่ตั้งใกล้ตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งในบริเวณตัวเมืองภูเก็ตมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม มีศูนย์การค้าใหญ่ๆ โดยวิลล่าที่ขายดีบริเวณหาดบางเทา หาดกมลา และ หาดราไวย์ เป็นวิลล่าประเภท 2 ห้องนอน ส่วนวิลล่าที่ขายดีในบริเวณหาดป่าตอง คือ วิลล่าประเภท 1 ห้องนอน
กลุ่มผู้ซื้อวิลล่าในภูเก็ตโดยส่วนมากเป็นชาวต่างชาติโดยส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ในเอเชีย อันได้แก่ ประเทศจีน สิงค์โปร์ ฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติจากรัสเซีย ตะวันออกกลาง ชาวยุโรป ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ โดยในอดีตวิลล่าที่เป็นที่นิยมเป็นวิลล่าที่มีขนาดใหญ่ เป็นรูปแบบไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วยห้องพักขนาดตั้งแต่ 3 ห้องนอนขึ้นไป ถึง 6 ห้องนอน แต่ในปัจจุบันความต้องการวิลล่าส่วนใหญ่เป็นวิลล่าขนาดกะทัดรัด 1-2 ห้องนอน เน้นรูปแบบการลงทุนปล่อยเช่าได้ และผู้ซื้อสามารถเข้าพักได้เป็นจำนวน 30 – 60 วัน ต่อปี แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละโครงการ
จากผลวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทย พบว่า ในปี พ.ศ. 2562 มีวิลล่าเปิดขายใหม่สูงที่สุดถึง 794 หน่วย จาก 23 โครงการ โดยวิลล่าที่เปิดขายใหม่ในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนมากที่มีสถานที่ตั้งอยู่ที่หาดกมลา สูงถึงร้อยละ 44 รองลงมาได้แก่บริเวณหาดบางเทา และ หาดป่าตอง มีอยู่ในอัตราร้อยละ 20 และ 13 ตามลำดับ บริเวณหาดกมลามีจำนวนอุปทานใหม่สูงที่สุดเนื่องจากมีโครงการวิลล่าที่เปิดขายเป็นโครงการใหญ่ประกอบด้วยจำนวนวิลล่าสูงถึง 300 หน่วย
นายณัฏฐา ยังได้กล่าวเสริมเกี่ยวกับราคาขายวิลล่าในภูเก็ตว่า ราคาขายขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างอันได้แก่ วิวจากวิลล่า สถานที่ตั้ง ขนาดวิลล่า เนื้อที่ดิน โดยราคาขายวิลล่าจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ 1) วิลล่าที่ตั้งอยู่หน้าหาด หรือ บนภูเขาที่อยู่ติดกับทะเล (Oceanfront Villa) 2) วิลล่าที่เห็นวิวทะเล วิลล่าประเภทนี้ตั้งอยู่ไกลจากหาดแต่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งสามารถเห็นวิวทะเล ได้ในมุมกว้าง (Sea View Villa) และ 3) วิลล่าที่ไม่เห็นวิวทะเล (In Land Villa)
โดยวิลล่าประเภท Oceanfront จะเป็นวิลล่าที่มีระดับราคาขายต่อหน่วยที่สูงที่สุด โดยราคาขายของวิลล่าประเภท Oceanfront ที่อยู่ระหว่างการขายมีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 292 ล้านบาท และ สูงสุด ที่ 370 ล้านบาท ส่วนวิลล่าประเภทSea view ที่อยู่ระหว่างการขายมีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 6.9 ล้านบาท และสูงสุดที่ 54.7 ล้านบาท และวิลล่าประเภท In land มีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 7.9 ล้านบาท และ สูงสุดที่ 47.4 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นของวิลล่าประเภทIn land มีราคาขายสูงกว่าวิลล่าประเภท Sea View เนื่องจากขนาดของวิลล่าIn land ที่อยู่ระหว่างการขายมีขนาดใหญ่กว่ามีจำนวนห้องนอน 3 ห้อง ส่วนระดับราคาขายเริ่มต้นของวิลล่าประเภท Sea view เป็นวิลล่าประเภท 1 ห้องนอน จึงมีราคาถูกกว่าวิลล่าประเภท In land
แนวโน้มตลาดวิลล่าในภูเก็ต ณ ปี พ.ศ. 2563 น่าจะชะลอตัว อันเนื่องมาจากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ หรือ โควิด 19 ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในภูเก็ตมีจำนวนลดลงจากปีที่ผ่านมา อีกทั้งในปัจจุบันภูเก็ตได้ประกาศปิดเมือง ทำให้กิจการต่างๆทั้งสำนักงานขาย โรงแรม ธุรกิจหยุดดำเนินงานเป็นการชั่วคราว คาดว่าโครงการวิลล่าที่จะเปิดขายใหม่ในปี พ.ศ. 2563 ลดลงอย่างแน่นอน อีกทั้งอุปสงค์ลดลง ราคาขายวิลล่าในภูเก็ตมีแนวโน้มทรงตัว หรือ ลดลงเล็กน้อย