- เปิดแนวคิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของเมืองภูเก็ต แนวทางป้องกันเชื้อโควิด-19 คือหัวใจสำคัญอันดับ 1
- การคัดเลือกกลุ่มประเทศที่จะเปิดรับขึ้นอยู่กับที่ประชุม ศบค. คาดจะเป็นกลุ่มสแกนดิเนเวียน
- เงื่อนไขนักท่องเที่ยวต้องมีบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์มีที่อยู่เป็นหลัก แรกเข้าต้องจ่ายเงินค่าที่พักกักตัว 1-5 แสนบาท
เกือบจะครบปีแล้ว ที่เราอยู่กับ “โควิด-19” เชื้อไวรัสที่ทำร้ายสุขภาพคนทั่วโลก มิหนำซ้ำยังทำลายระบบเศรษฐกิจเกือบทุกประเทศ จนเรียกว่า “ย่อยยับ” เกินจะพรรณนา สำหรับเมืองไทย เมืองในฝันแห่งการท่องเที่ยวเอง ก็แหลกลาญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะจังหวัด “ไข่มุกแห่งอันดามัน” นั่นก็คือ จังหวัดภูเก็ต
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา “ภูเก็ต” สร้างรายได้เข้าประเทศปีละหลายแสนล้านบาท โดยปีล่าสุด มีรายได้จากการท่องเที่ยว 4.7 แสนล้าน แบ่งเป็นคนไทยเที่ยวกันเอง เฉลี่ยปีละ 4 ล้านคน มีเม็ดเงินกว่า 5 หมื่นล้าน ชาวต่างชาติ 10 ล้านคน รายได้มากกว่า 4 แสนล้านบาท เมื่อมองลึกลงไปจากตัวเลข 10 ล้าน มีคนจีนเดินทางมาภูเก็ตกว่า 8 ล้านคน หรือกว่า 80%
แต่หลังโควิด-19 ระบาด เกิดการล็อกดาวน์ประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศในไทย แทบจะกลายเป็นเมืองร้าง แต่ที่หนักหนาสาหัส เพราะ “ภูเก็ต” หวังพึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก เมื่อทุกข์ระทมมาหลายเดือน ผู้ประกอบการเริ่มจะทนไม่ไหว จึงมีแนวคิดต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มกระเป๋าหนัก กับแผนที่เตรียมไว้คือ “ภูเก็ตโมเดล”
“สิ่งที่กลัวที่สุดคือ โควิด-19 ระบาดในรอบที่ 2”
นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รอง ผวจ.ภูเก็ต ยอมรับว่า ที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนผู้ประกอบการได้มีการหารือกับ ศบค. เพื่อหาแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 หากภูเก็ตมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว…
“ยังไม่แน่ใจว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เมื่อไหร่ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเดือนตุลาคมนี้ โดยมีการเตรียมความพร้อมรับมือในหลายด้าน โดยเฉพาะการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ที่มีการตั้งแล็บสำหรับตรวจโควิด-19 ที่สนามบิน โดยคาดว่าจะสามารถตรวจได้วันละ 2 รอบ รอบครั้งละ 96 คน รวม 192 คน/วัน ซึ่งจะรู้ผลภายใน 4 ชั่วโมง”
รอง ผวจ.ภูเก็ต ยอมรับว่า ได้มีการตั้งเป้าเปิดรับไว้โดยเจาะจงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะอยู่ในประเทศไทยค่อนข้างยาว หรือมีที่อยู่หรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก เพราะต้องมีการกักตัว 14 วัน ซึ่งการกักตัวดังกล่าว ได้มีการเตรียมโรงแรม ที่พักไว้ตาม Thailand Alternative Local State Quarantine (ALSQ) และ Alternative Local Quarantine (ALQ) ซึ่งปัจจุบันมีแล้ว 565 ห้อง
ทั้งนี้ การกักตัวดังกล่าว มีการประเมินไว้ว่า นักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายราว 2-5 แสนบาท สำหรับการกักตัวที่โรงแรม 4-6 ดาว เพราะโรงแรมเหล่านี้จะมีการอำนวยความสะดวกพร้อม กินอยู่ ดูแล ทุกอย่างมีของใช้เป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ในอนาคต มีแนวคิดที่จะพยายามลดคอสต์ ด้วยการลดระดับโรงแรมที่เข้าร่วม ALQ
นอกจากนี้ อาจจะมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ติดตาม ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์หรือพยาบาล ที่จะมาติดตามอาการต่างๆ ซึ่งตรงนี้ยังเป็นข้อเสนอ..
สำหรับกลุ่มประเทศที่ตั้งเป้าไว้ ประกอบไปด้วย กลุ่มประเทศที่มีการระบาดน้อย อาทิ กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย นอร์เวย์ สวีเดน หรือบางประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ หรือจีน ที่อาจจะเลือกเปิดรับบางมณฑล ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้ ที่สุดแล้ว ศบค. จะเป็นผู้กำหนด…
สำรวจราคา ALSQ โรงแรมภูเก็ต
ทั้งนี้ จากการสำรวจโรงแรมหรูในภูเก็ต พบว่าราคาต่ำสุด 1 ห้องนอน ราคา 95,000 บาท ต่อ 1 คน / 15 คืน มีอาหารพร้อมให้บริการ 3 มื้อ มีการตรวจโควิด-19 จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 5 และ 13 ที่เข้าพัก โดยจะมีพยาบาลให้บริการตลอด หลังจากนั้นจะได้รับใบรับรองแพทย์
ส่วนราคาแพงที่สุด 1 ห้องนอน ราคา 5 แสนบาท นอนได้ 3 คน / 14 คืน มีบริการอาหารครบ 3 มื้อ สามารถเลือกเมนูได้ ตรวจวัดอุณหภูมิ 2 ครั้ง/วัน มีผู้ช่วยดูแล 24 ชั่วโมง มีพยาบาลบริการตรวจวัดไข้ มีรถส่วนตัวให้บริการ รับส่งตั้งแต่สนามบิน ตรวจโควิด-19 จำนวน 3 ครั้ง ในวันที่ 1, 5 และ 12 ในวันที่เข้าบริการ มีใบรับรองแพทย์การตรวจโควิด-19
ต้อนรับนักเดินทางไทย เที่ยวภูเก็ตไม่แพง
“คำพูดที่ว่าเที่ยวภูเก็ตแพง ในอดีตนั้นอาจจะใช่ แต่เพราะสถานประกอบการการท่องเที่ยวมีหลายระดับ แต่ปัจจุบันเรามีแคมเปญ เที่ยวภูเก็ตไม่แพง ที่ผ่านมา เรามีมาตรการในการดูแลเรื่องขนส่งสาธารณะ เช่น เรือ รถ มีการควบคุมราคา ฉะนั้น จึงอยากให้คนไทยหันกลับมาเที่ยว เพราะภูเก็ต เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม มีแหล่งประวัติศาสตร์”
นายพิเชษฐ์ ยืนยันว่า เราไม่ได้หวังแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่นักท่องเที่ยวไทยเราก็ยังหวัง ปีที่ผ่านมา คนไทยมาเที่ยวภูเก็ตก็มาก สร้างรายได้เยอะ แต่เมื่อหลายประเทศปิดไม่สามารถท่องเที่ยวได้ เราก็หวังกลุ่มคนเหล่านี้จะมาเที่ยวภูเก็ต
“ช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบเยอะ ปิดกิจการไปแล้วก็มีบ้าง ถ้ามีคนไทยมาเที่ยวก็จะช่วยได้ แต่หากเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็คาดว่าน่าจะได้คนมาเที่ยวเพิ่มขึ้นวันละหลายร้อยคน คิดง่ายๆ วันหนึ่งมีกลุ่มนักท่องเที่ยวมาไทยได้ วันละ 2 เที่ยวบิน ก็จะมีนักท่องเที่ยวหลายร้อยคน ถึงแม้จะแตกต่างจากสมัยก่อน ที่มีเที่ยวบิน บินตรงมาภูเก็ตวันละ 317 เที่ยวบินก็ตาม”
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เชื่อมั่นว่า การท่องเที่ยวภูเก็ต จะไม่มีวันตาย ถึงแม้ในเวลานี้จะได้รับผลกระทบ แต่ภูเก็ต คือ แหล่งท่องเที่ยวที่มีความงามทางธรรมชาติ มีสิ่งล้ำค่ามากกมาย ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนไทย ที่มีโอกาสได้มาเที่ยวชมธรรมชาติ ยังหวังว่าจะมีคนไทยมาเที่ยวมากขึ้น และราคาไม่แพงอย่างที่คิด…
“เชียงใหม่” เริ่มฟื้น สัดส่วนคนไทยเที่ยวมากกว่า
เมื่อหันมาดูสถานการณ์เมืองท่องเที่ยวอีกแห่ง ที่กำลังเข้าสู่ไฮซีซั่นอย่างจังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รอง ผวจ.เชียงใหม่ เผยว่า ตอนนี้เชียงใหม่เริ่มฟื้นแล้ว โดยเฉพาะช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา แค่สัปดาห์เดียว มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเชียงใหม่กว่า 1.1 แสนคน
เชื่อว่า ช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้ เชียงใหม่ จะได้รับผลกระทบไม่มาก เพราะจากตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งหมด เราพึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 20% คนไทยมากถึง 80% แต่สิ่งที่ต่างคือ นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะมีค่าเฉลี่ยต่อหัวในการใช้จ่ายมากกว่า และอีกอย่างหนึ่ง คือ บางอาชีพอาจจะได้รับผลกระทบ เช่น มัคคุเทศก์
“สิ่งที่ต้องระมัดระวังมากที่สุด สำหรับเชียงใหม่ คือ การป้องกันเชื้อโควิด-19 เพราะเชียงใหม่ติดกับชายแดนเพื่อนบ้านอยู่ 5 อำเภอ ตอนนี้เราจึงระมัดระวังมาก มีการจัดชุดเฝ้าระวัง อสม. หรือ อปพร. รวมถึงหน่วยทหาร เพื่อป้องกันการเล็ดลอดเข้ามา เพราะหากเกิดจริงๆ ก็อาจจะกระทบการท่องเที่ยวแน่นอน เพราะเรื่องปัญหาสุขภาพอนามัยของคนไทยยังต้องมาเป็นอันดับ 1 ก่อน” รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
สิ่งที่ต้องเลือกในเวลานี้ คือ “ความเสี่ยง” ที่คนไทยมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น จากแนวคิดเปิดรับนักท่องเที่ยว หรือจะเลือกล็อกดาวน์ประเทศต่อไป แต่ก็ต้องแบกรับปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังเผชิญสถานการณ์ที่เลวร้าย
ที่มา : www.thairath.co.th