อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชี้ ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ในอีอีซี 5 เดือนแรกของปี 2563 ลดลง 13.35 % รับผลกระทบจากโควิด-19
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงยอดการจัดตั้งธุรกิจใหม่ ช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคม 2563 ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี พบว่า มีการจัดตั้งธุรกิจใหม่ รวม 2,731 ราย ลดลง 13.35 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนทุนจุดตั้ง ลดลง 18.32% สำหรับประเภทธุรกิจที่มีการจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ 443 ราย รองลงมาคือ ก่อสร้างอาคารทั่วไป 202 ราย และตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ 124 ราย ทั้งนี้ ผลจากโควิด-19 ทำให้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่รอดูสถานการณ์และมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ
ปัจจุบันพื้นที่ 3 จังหวัด ในเขตพื้นที่ อีอีซี ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง มีนิติบุคคลคงอยู่ จำนวน 74,073 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 1,959,310 ล้านบาท แบ่งเป็น ชลบุรี 54,357 ราย คิดเป็น 73.38 % , ระยอง 13,909 ราย คิดเป็น 18.18 % ,และ ฉะเชิงเทรา 5,807 ราย คิดเป็น 7.84 % โดยขนาดธุรกิจส่วนใหญ่ในพื้นที่ อีอีซี ประกอบธุรกิจบริการ คิดเป็น 60.90%
ด้านการลงทุนของต่างชาติในนามนิติบุคคลไทย (ถือหุ้นไม่เกิน 49.99%) ที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ อีอีซี มีมูลค่าทั้งสิ้น 788,156 ล้านบาท คิดเป็น 40.22 %ของมูลค่าทุนทั้งหมด โดยญี่ปุ่น มีสัดส่วนการลงทุนมากที่สุด คิดเป็น 48.10% มูลค่าทุน 379,135 ล้านบาท รองลงมาคือ จีน มีสัดส่วนการลงทุน 10.63 % มูลค่าทุน 83,767 ล้านบาท และสิงคโปร์ มีสัดส่วนการลงทุน 5.49 % มูลค่าทุน 43,235 ล้านบาท โดยมีการลงทุนในจังหวัดระยอง สูงสุด 418,340 ล้านบาท ชลบุรี 288,052 ล้านบาทและ ฉะเชิงเทรา 87,763 ล้านบาท
ที่มา :www.tnnthailand.com