การออกแบบผังเมืองที่ดีนั้นดีอย่างไร? แต่ละประเทศมักมีจุดเด่นที่สวยงามที่เกิดจากหล่อหลอมทางอารยธรรมในแต่ละที่ รวมไปถึงตัวผังเมืองในที่นอกจากความสวยงามแล้วยังมีผลในด้านใช้ชีวิตของคนในเมืองโดยในแต่ละที่จะมีการวางที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีการแบ่งประเภทในแต่ละพื้นที่ตามความเหมาะสม โดยการออกแบบจะเน้นไปที่การรองรับการเติบโตของเมืองในอนาคต และที่สำคัญเมืองจะยังคงความสวยงามและน่าอยู่เสมอ ซึ่งส่งผลถึงในด้านคุณภาพชีวิตของประชากรในพื้นที่อีกด้วย
ขณะเดียวกันหากไม่มีการวางแผนการวางผังเมืองเอาไว้ เมืองก็จะเติบโตอย่างไร้ทิศทาง ในอนาคตอาจเกิดชุมชนแออัดมากขึ้น การจราจรติดขัด และอาชญากรรมที่มากขึ้น รวมไปถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งตัวอย่างก็มีให้เห็นไม่ไกลตัวเรา วันนี้ทาง Knight Frank Thailand พามาชมผังเมืองรอบโลกที่มีการวางผังเมืองที่ยอดเยี่ยมดูกันเลย
อ่านเกี่ยวกับผังเมืองอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่
- ส่องร่าง ผังเมืองกทมเปิดพื้นที่พัฒนารองรับระบบราง
- ส่องผังเมืองใหม่ กทม. บูม 14 เขต ผุดตึกสูงในซอย รับรถไฟฟ้า
- สมุทรปราการ รื้อผังเมืองใหม่ รับรถไฟฟ้า-เมกะโปรเจกต์
- ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ได้รับเชิญเป็นวิทยากรร่วมเสวนาพิเศษเรื่อง “ผังเมืองใหม่ เมกะโปรเจ็กต์ พลิกโฉม กทม.”
กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
กรุงเบิร์นนับเป็นเมืองหลวงทางพฤตินัยของสวิตเซอร์แลนด์เพราะในทางนิตินัยแล้วประเทศไม่ได้กำหนดให้เมืองใดเป็นเมืองหลวง กรุงเบิร์นยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1191 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การ UNESCO ในปี 1983 เพราะว่าสถาปัตยกรรมภายนอกของเมืองนี้ถูกอนุรักษ์ไว้เหมือนเดิมทุกประการ เปลี่ยนได้เฉพาะการตกแต่งภายในอาคารเท่านั้น เราจึงยังได้เห็นเมืองโบราณสมัยศตวรรษที่ 16 แบบดั้งเดิมแน่นอน
จุดเด่นหลักของผังเมืองที่นี่เลยคือการสร้างอาคารที่อยู่อาศัยเป็นแถวขดอย่างเป็นระเบียบซ้อนกันจากขอบเข้าหาตรงกลาง โดยเราจะเห็นว่าถนนหลักของกรุงเบิร์นจะพาดผ่ากลางเมืองไปและมีถนนสายรองขนาบทั้งสองข้างแตกออกไปและยังมีถนนสายย่อยที่หากมองดูจะเห็นได้ว่าทุกสายนั้นเชื่อมถึงกันทั้งหมด ทำให้การสัญจรมีทางเลือกหลายเส้นทางจึงหมดปัญหาเรื่องการเดินทางซึ่งนับเป็นปัญหาหลักของผังเมืองและการเข้าถึงปัจจัยที่ต้องการเลยทีเดียว
กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
กรุงปารีส เป็นเมืองหนึ่งเป็นเมืองหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม และยังมีผังเมืองที่สวยงามที่สุดในโลก ทั้งยังเหมาะแก่การใช้งานด้วยผังเมืองเป็นรูปแบบของการวางของใยแมงมุมโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ประตูชัยนโปเลียน (อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล : Arc de Triomphe) หรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อประตูชัยฝรั่งเศส โดยการรูปแบบนี้เลียนแบบมาจากประเทศอังกฤษแล้วนำมาประจุกต์ใช้ให้เข้ากับฝรั่งเศส โดยมีการวางยุทธศาสตร์ทางการทหารให้กองทหารเข้าเมืองง่ายขึ้นเพราะดำเนินการสร้างในช่วงปี 2396-2413 (ค.ศ.1853-1870) ซึ่งเป็นช่วงที่ยังมีสงครามอยู่ และอีกข้อคือเพื่อพัฒนาเมืองให้เหมาะแก่การอยู่อาศัยนั่นเอง
จุดเด่นหลักของผังเมืองปารีสอยู่ที่การกระจายตัวของเมืองเพราะด้วยลักษณะผังเมืองแบบใยแมงมุมนี้มีความเป็นระเบียบ และช่วยในการกระจายเส้นทาง ทำให้ทุกอย่างเชื่อมถึงกันทั้งหมด หากบอกว่าเป็นการออกแบบเพื่อให้เหมาะแก่การอยู่อาศัยก็นับว่าเป็นการขยายพื้นที่ และความเจริญให้คนไม่พากันไปกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เป็นการขยายพื้นที่ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง
บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ถือเป็นเมืองที่มีผังเมืองที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่รู้รือไม่ว่าบาร์เซโลน่านั้นเคยเป็นเมืองหนึ่งที่ต้องเผชิญปัญหาความแออัดที่ทำให้คุณภาพชีวิตตกต่ำลงเช่นกัน ด้วยความเจริญของเมืองดึงดูดคนให้เข้ามาอยู่อาศัยกันมากมายสุดท้ายจึงต้องมีการขยายเมืองและออกแบบเมืองใหม่โดย Ildefons Cerdà ซึ่งเขาให้ความสำคัญกับปัจจัยสามประการได้แก่ แสงแดด ธรรมชาติและการระบายอากาศ สุดท้ายจึงได้มาเป็น Eixample หรือรูปแบบเมืองบาร์เซโลน่าที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้
จุดเด่นหลักของผังเมืองนี้นั้นตอบโจทย์ทุกอย่างที่ Ildefons Cerdà ต้องการทั้งเรื่องรูปแบบการอยู่อาศัยที่ไม่แออัด ไม่แบ่งแยกคนรวยหรือคนจนซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ และด้วยความเป็นบล็อกแปดเหลี่ยมทำให้สามารถเรียงตัวเป็นระเบียบมีถนนตัดผ่านได้รอบบล็อกกลายเป็นตาราง สามารถเดินทางได้ง่าย ภายในบล็อกยังเป็นชุมชนขนาดย่อมซึ่งตรงกลางคือพื้นที่ส่วนกลางสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่กิจกรรมร่วมกันในชุมชนได้ด้วย เรียกว่าตอบโจทย์ในปัญหาทุกด้านจริงๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผังเมืองแห่งนี้จะถูกยกเป็นหนึ่งในผังเมืองที่ดีที่สุดในโลก
บรอนด์บี้ ประเทศเดนมาร์ก
เมืองบรอนด์บี้ (Brøndby) ประเทศเดนมาร์ก หรือที่ใครๆ เรียกกันติดปากว่า ‘Brondby Garden City’ เกิดจากแนวคิดเชิงยูโทเปีย ที่หลายคนเชื่อว่าไม่มีอยู่จริง ขณะเดียวกันเมืองนี้กลับสร้างมาแล้ว 60 ปี เมืองนี้มีการวางผังที่ล้ำไม่เหมือนใคร โดยลักษณะการแบ่งบ้านคล้ายกับการตัดแบ่งพิซซ่าเป็นชิ้นๆ เป็นการนำแนวคิดเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ที่ชาวเมืองมักน้ำบ่อน้ำมาไว้ตรงกลางเป็นศูนย์รวมของชาวเมือง ไว้สังสรรค์แลกเปลี่ยนให้เกิดปฏิสัมพันธ์กันในชุมชน ซึ่งแนวคิดนี้เป็นต้นแบบที่ล้ำสุดๆในยุคนนั้นกันเลยที่เดียว
ด้วยหน้าตาอันแปลกประหลาด ทำให้เกิดจินตนาการขิงผู้คนที่มองเข้ามาในเมืองนี้นั้นหลากหลาย ทั้งเหมือนองุ่น วงล้อ บางคนก็เชื่อว่าเกิดจากอารยธรรมนอกโลก แต่ในความเป็นเมือง เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่มากเมืองนึง ข้อแรกคือห่างจากตัวเมืองที่วุ่นวายและเสียงดัง สวนท้ายบ้านช่วยลดเสียงรบกวนจากการทำกิจกรรมต่างๆ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยสีเขียว ทำให้สามารถพักผ่อนได้เต็มที่ ข้อสองเมืองค่อนข้างเล็กมีความเป็นส่วนตัว และมีลานกิจกรรมเฉพาะเพื่ิอให้ผู้คนรู้จักกันทั่วถึง และข้อสามทุกบ้านใน Brøndby Garden City มีระบบน้ำปะปา-ไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมไปถึงการคำนวณที่ออกแบบมาเพื่อให้เอียงรับแสงที่เพียงพอ แถมยังคิดไปถึงตัวพุ่มไม่ของแต่ละบ้านจะได้รับการสังเคราะห์แสงได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
ที่มา PostJang ที่มา PostJang
แม้จะมีให้จับจองเป็นเจ้าของ แต่ที่นี่ก็อยู่ได้แค่ช่วงเดือนเมษายน-ปลายกันยายน เท่านั้น เพราะตามกฎหมายท้องถิ่น มีการป้องกันไม่ให้ใครครอบครองทรับย์สินได้นานเกิน 6 เดือนต่อปี ดังนั้นชาวเมืองที่ซื้อบ้านที่นี่ไว้ มักจะแวะมาพักผ่อนหรือเพาะปลูกกันแค่ช่วงหน้าร้อน จากนั้นก็จะกลับไปในช่วงฤดูหนาว เพื่อให้ทุกคนสามารถเวียนมาใช้กันได้นั่นเอง
เนิร์ดลิงเงิน (Nordlingen) ประเทศเยอรมัน
Nordlingen (เนิร์ดลิงเงิน) ตั้งอยู่ในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เป็นผังเมืองที่มีเอกลักษณ์แปลกตาไม่เหมือนใคร ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในหลุมอุกกาบาตขนาด 25 กิโลเมตร ที่เกิดจากการตกกระแทกด้วยความเร็ว 70,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อ 15 ล้านปีก่อน จนเมื่อปี ค.ศ. 800 กว่า ได้มีการตั้งรกรากบ้านเรือนในบริเวณภายในหลุม จนค่อยๆเติบโตเป็นชุมชนและเมืองหลังจากนั้น
ในปีค.ศ. 1215 เนิร์ดลิงเงินได้รับการยกขึ้นเป็นเมืองจากจักรพรรดิฟรีดริชที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ในปีเดียวกันเอง ได้มีการเริ่มก่อสร้างกำแพงเมืองขึ้นมาเป็นครั้งแรก แนวกำแพงเมืองเก่านี้ยังหลงเหลือจนถึงปัจจุบัน เนิร์ดลิงเงินประสบเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปีค.ศ. 1238 จนเมืองส่วนใหญ่เสียหาย แต่ก็ถูกฟื้นฟูใหม่อย่างรวดเร็ว กำแพงเมืองรูปวงกลมที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1327 ซึ่งได้ขยายเขตในกำแพงออกไปสี่เท่า
ปัจจุบันเนิร์ดลิงเงินเป็นเมืองที่โดดเด่นไม่น้อยเมื่อมองจากภาคอากาศ ด้วยเพราะมีขอบเขตที่กลม ทั้งยังถูกโอบล้อมด้วยกำแพงเมืองยุคกลางที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ในสภาพสมบูรณ์ และด้วยบรรยากาศที่มองมุมกว้างแล้วคล้ายกับเมืองในเทพนิยายสุดแสนจะโรแมนติก เรียกได้ว่าน่าไปเยือนมากกกก โดยเฉพาะกับผู้ที่ชมชอบเมืองสงบ ๆ บรรยากาศเมืองเก่า จิบกาแฟชิล ๆ ในวันพักผ่อน ต้องชอบแน่นอน คอนเฟิม!
อ้างอิง: 8 ผังเมืองที่สวยติดอันดับโลก, ผังเมืองดีมีชัยไปกว่าครึ่ง, readthecloud, Kapook.com, Condonewb, wikipedia