นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.ได้เปิดซองราคาประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 53,519 ล้านบาท และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงิน 51,931 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ยื่นข้อเสนอ 2 ราย คือ บริษัท ทางด่วนรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ที่มีบริษัท บีทีเอส (มหาชน), บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผลปรากฏว่า กิจการร่วมค้าบีเอสอาร์เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดทั้ง 2 โครงการ โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเจรจาต่อรองราคาและพิจารณาข้อเสนอเพิ่มเติมด้วย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของภาครัฐ
ส่วนข้อเสนอเพิ่มเติมของกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์นั้นได้ระบุว่า จะเชื่อมต่อเส้นทางเพื่อความสะดวกในการเดินทาง เช่น สายสีเหลือง จะลงทุนต่อเชื่อมจากสถานีลาดพร้าวไปยังแยกรัชโยธิน ซึ่งจะเชื่อมต่อกับสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และสายสีชมพู ช่วงแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด จะลงทุนต่อเชื่อมเข้าไปยังเมืองทองธานีระยะทาง 2.8 กม.ให้ด้วย
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูนั้น มีนายธีรพันธ์ เตชะ–ศิรินุกูล รองผู้ว่าการ รฟม. เป็นประธาน จะต้องเจรจาต่อรองกับเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก ก่อนที่จะสรุปเสนอบอร์ด รฟม.และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป เมื่อ ครม.เห็นชอบแล้วคาดว่าจะมีการลงนามในสัญญาภายในเดือน ธ.ค.นี้ และเริ่มก่อสร้างได้ในต้นปี 2560 แล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2564
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ใช้รูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดย รฟม. ลงทุนด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน เอกชนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานทางโยธา ระบบเครื่องกลและไฟฟ้า (รถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคร่อมราง) และให้บริการการจัดการเดินรถและบำรุงรักษา รวมถึงจัดเก็บค่าบริการ โดยมีอายุสัญญาสัมปทานรวม 33 ปี 3 เดือน.
แหล่งที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ : 7 ธ.ค. 2559