นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงปัญหาและหาทางออกอสังหาริมทรัพย์ไทย เพื่อให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลต่อยอดขายในตลาดอสังหาฯ ซบเซา แต่ทั้งนี้ ยังพอมีบางบริษัทที่ยังขายได้ และมีผู้ประกอบการบางรายจัดโปรโมชั่นส่วนลด 50% ก็ยังมีลูกค้าเข้าไปดูค่อนข้างมาก ถือเป็นสัญญาณที่ดี ว่ากำลังซื้อยังไม่หายไปตลาดเลยทันที
อย่างไรก็ตาม วิกฤตโควิด ยังไม่มีใครตอบได้ว่าจะจบเมื่อไร เพราะในอเมริกา ผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้น ส่วนไทยผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มนิ่ง ซึ่งในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ช่วงระยะ 3 เดือนจากนี้ยังพอประคองไปได้ แต่หลังจากนั้นถ้าสถานการณ์โควิดยังไม่ดี และทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบและลากยาวไปถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยไม่ได้รับการแก้ไขเลย คาดว่าจะกลายเป็นปัญหาใหญ่และลุกลามไปถึงภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องเหมือนช่วงวิกฤตการเงินปี 2540 ซึ่งผู้ประกอบการรายเล็ก จะได้รับผลกระทบด้านสภาพคล่องการเงินก่อน ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีหนี้สะสมจำนวนมากก็น่ากังวล โดยเฉพาะรายที่มีการออกหุ้นกู้หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน และจะครบกำหนดชำระในปลายปีนี้โดยรวมแล้วกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการเหล่านี้ต้องหาเงินไปชำระหนี้คืนให้ได้ แม้ล่าสุดรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมเข้าช่วยเหลือบางส่วน โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับลงทุนได้ หรือ Investment Grade
ในส่วนของกำลังซื้อผู้บริโภคนั้นยังตอบยาก ว่าจะมีความเชื่อมั่นที่จะซื้อแค่ไหน แต่อย่างไรก็ดี เริ่มมีสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ประกอบการอสังหาริทรัพย์ ใน จ.เชียงใหม่ พบว่าผู้ประกอบการที่ร่วมทุนระหว่างไทย-จีน และผู้ประกอบการจีน ล่าสุดได้ซื้อที่ดินแล้วและอยู่ระหว่างเตรียมพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม ซึ่งมีแนวโน้มว่าลูกค้าจีนปำลังจะกลับมาซื้ออสังหาฯไทยอีกครั้ง หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง
นายพรนริศ กล่าวอีกว่า กรณีเลวร้ายสุดจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งยังไม่ค้นพบวัคซีนรักษา จะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯ ชะลอตัวลงไปถึง 30% แต่อย่างไรก็ดี จะต่างจากวิกฤตปี 2540 เนื่องจากปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ไทยมีความแข็งแกร่งทางการเงินสูง โดยธนาคารยังมีศักยภาพในการปล่อยกู้ได้ และเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย เชื่อว่าธนาคารจะมีแพ็กเกจออกมากระตุ้นสินเชื่อ
ยิ่งกว่านั้นวิกฤตโควิด-19 รอบนี้ หากจีนฟื้นตัวได้เร็ว จะกลายเป็นว่าเศรษฐกิจจีนจะแข็งแกร่งที่สุดในโลก และเป็นกำลังซื้อใหม่ของไทย ดังนั้นผู้ประกอบการไทยอาจจะต้องเตรียมพร้อมว่าจะดึงกำลังซื้อจากจีนอย่างไรบ้าง และหรือรัฐบาลจะต้องมีการปรับกฎหมายเพื่อเอื้อให้คนจีนเข้ามาซื้อได้ง่ายขึ้นหรือไม่
นายพรนริศ ยังได้ฝากข้อเสนอต่อรัฐบาล 2 เรื่อง คือ ขอให้ยกเลิกมาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ แอลทีวี ซึ่งเดิมธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการนี้เพื่อมุ่งจะสกัดการเก็งกำไรในตลาดคอนโดมิเนียม แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันคนไม่มีกำลังในการเก็งกำไรแล้ว ดังนั้นจึงเห็นควรให้ยกเลิกมาตรการนี้เพื่อเป็นกาากระตุ้นกำลังซื้อกลับมา ในเวลาเดียวกันถ้าคนจีนกลับเข้ามาซื้ออสังหาฯ ไทยอีกรอบ แม้จะซื้อเก็งกำไรบ้าง แต่ก็ยังช่วยดูดซับสินค้าที่ค้างสต๊อกไปได้บางส่วน นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ หรือรายใหม่ จะกลับเข้ามาเติมสินค้าใหม่ในตลาดได้เร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลเลื่อนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งจะเริ่มมีการจัดเก็บในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยมองว่าจะมีผลกระทบทั่วประเทศ เนื่องจาก ช่วง 5-6 เดือนแรกของปีนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบไม่มี เพราะถูกกระทบจากสถานการณ์โควิด
ด้านน.ส.สุมิตรา วงภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด ผู้พัฒนาเว็บไซต์ TerraBKK.com กล่าวว่า ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ ส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดอสังหาฯไทย ในกรณีที่รัฐบาลสามารถควบคุมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เร็ว ต่างชาติก็พร้อมจะกลับเข้ามาซื้ออสังหาฯ ไทยได้ เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้นำคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่รวม 10 โครงการมาจัดโปรโมชั่น Secret Deal โปรลับ!! ดีลพิเศษ ลดสูงสุดกว่า 50% อาทิโครงการเอ็ม จตุจักร ลด 55% โดย 1 ห้องนอน 29.24 ตร.ม. จากราคา 5.34 ล้านบาท ลดเหลือ 2.447 ล้านบาท โครงการมาเอสโตร ร่วมฤดี ลดราคาสูงสุด 62% แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 58.07 ตร.ม. ราคา 10.20 ล้านบาท ลดเหลือ 6.01 ล้านบาท เป็นต้น
ที่มา : www.khaosod.co.th
