นางสาวริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า ค่อนข้างชะลอตัวจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ หรือ โควิด-19 จำนวนหน่วยขายได้ใหม่ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 444 หน่วย จำนวนหน่วยขายเฉลี่ยต่อปีของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ขายได้เฉลี่ยปีละประมาณ 1,600 หน่วย
ในช่วงกลางเดือนมีนาคม ถึง กลางเดือนพฤษภาคม พบว่าการขายคอนโดมิเนียมค่อนข้างชะลอตัวอันเนื่องมาจากการที่ทางรัฐบาลกำหนดนโยบายห้ามการเดินทางข้ามพื้นที่ข้ามจังหวัด ทำให้คนไทยที่อยู่กรุงเทพมหานครงดเว้นการเดินทางไปยังต่างจังหวัด อย่างไรก็ดีผู้ประกอบการหลายๆรายต่างพากันทำการขายในช่องทางออนไลน์ และ ทำโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาจอง ยิ่งโครงการที่คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปีนี้ต่างเร่งยอดขาย
จากผลการวิจัยของบริษัทไนท์แฟรงค์ประเทศไทย พบว่า ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 คอนโดมิเนียมในบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่าขายไปได้แล้วทั้งสิ้น 23,044 หน่วย จากจำนวนหน่วยอุปทานทั้งสิ้น 27,459 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 84 โดยอัตราการขายเพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ. 2562 ที่มีอัตราการขายอยู่ที่ร้อยละ 83 อันเนื่องมาจากอุปทานใหม่ที่เข้ามาในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีน้อยเพียง 238 หน่วย โดยโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่เป็นโครงการที่ทำการบริหารโดยเชนโรงแรมระดับ 5 ดาว จำนวนหน่วยเหลือขายของคอนโดมิเนียมบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า มีจำนวนหน่วยเหลือขายประมาณ 4,415 หน่วย ซึ่งคาดว่าหากไม่มีอุปทานใหม่เกินขึ้น หน่วยเหลือขายที่เหลือจะใช้เวลาขายอีกประมาณ 3 ปี
จากผลการสำรวจพบว่าคอนโดมิเนียมที่เหลือขายอยู่เป็นจำนวนมากมีสถานที่ตั้งอยู่บริเวณชะอำโดยมีจำนวนหน่วยเหลือขายอยู่ที่ 3,119 หน่วย โดยบริเวณชะอำน่าจะเป็นบริเวณที่มีโครงการใหม่เกิดขึ้นได้ง่ายเนื่องจากที่ดินที่อยู่ติดทะเลในบริเวณนี้ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการได้ตระหนักถึงอุปทานคงเหลือของคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บริเวณชะอำซึ่งมีจำนวนหน่วยเหลือขายเป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการต่างๆจึงชะลอการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในบริเวณชะอำไปอีกจนกว่าอุปทานคงเหลือจะเข้าสู่ภาวะสมดุล
อย่างไรก็ดีคอนโดมิเนียมที่มีสถานที่ตั้งอยู่ในบริเวณหัวหิน และ เขาตะเกียบมีแนวโน้มที่ดีทั้งนี้เนื่องจากอุปทานเหลือขายมีจำนวนน้อยมาก อีกทั้งสถานที่ตั้งบริเวณหัวหินและเขาตะเกียบมีความสมบูรณ์รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล และตลาด ความสะดวกสบายดังกล่าวส่งผลให้ผู้ซื้อสนใจซื้อคอนโดมิเนียมที่มีสถานที่ตั้งอยู่บริเวณหัวหินและเขาตะเกียบ
กลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า ส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพมหานครสูงถึง90% เนื่องจากระยะทางการเดินทางจากกรุงเทพฯไปยังบริเวณดังกล่าวค่อนข้างสั้น นอกจากนี้บริเวณนี้ยังค่อนข้างสมบูรณ์ มีโครงการการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านอาหาร โรงแรม สวนน้ำ ส่วนชาวต่างชาติมีซื้อบ้างประมาณ 10% ชาวต่างชาติที่นิยมซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปได้แก่ ชาวฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ ชาวจีนมีบ้างแต่ไม่มากนัก โดยชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมในหัวหินประกอบด้วยชาวต่างชาติที่มีภรรยาเป็นคนไทยและซื้อเพื่ออยู่ประจำ และชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองเพื่อเข้ามาพักผ่อนในช่วงปลายปีที่เป็นช่วงไฮซีซั่นโดยเข้ามาพักในระยะเวลาประมาณ 2-4 เดือน ส่วนคนไทยที่ซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้มักเข้ามาพักผ่อนในช่วงวันหยุด
อุปทานสะสมของคอนโดมิเนียมบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า ตั้งแต่ปี พ.ศ 2548 ถึง เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 27,459 หน่วย โดยคอนโดมิเนียมโดยส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 54 เป็นคอนโดมิเนียมที่ไม่เห็นวิวทะเล ส่วนคอนโดมิเนียมที่เห็นวิวทะเลมีอยู่ในอัตราส่วนร้อยละ 46 ของอุปทานทั้งหมด
ราคาเสนอขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่เห็นวิวทะเลในบริเวณนี้มีระดับราคาเสนอขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 132,000 บาท ต่อ ตารางเมตร ราคาขายปรับตัวขึ้นในอัตราร้อยละ 0.3 จากปลายปีพ.ศ. 2562 ส่วนราคาเสนอขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่ไม่เห็นวิวทะเลในบริเวณนี้มีระดับราคาเสนอขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 74,000 บาท ต่อ ตารางเมตร ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงอัตราร้อยละ 0.4 จากปลายปี พ.ศ. 2562 ราคาขายค่อนข้างคงที่อันเนื่องมาจากสถานะการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ระบาด หลายๆโครงการได้ทำราคาโปรโมชั่นในช่วงนี้
นางสาวริษิณี ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดคอนโดมิเนียมในบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า ว่าคอนโดมิเนียมบริเวณนี้ในปีนี้ค่อนข้างชะลอตัวอันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสสายพันธ์ใหม่ หรือ โควิด-19 คอนโดมิเนียมที่เหลือขายในบริเวณนี้มักเป็นคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บริเวณชะอำและไม่เห็นวิวทะเล ซึ่งมีอุปทานเหลือขายสูงมากเกินครึ่งของอุปทานเหลือขายทั้งหมด ส่วนคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บริเวณหัวหิน-เขาตะเกียบ-เขาเต่ามีแนวโน้มค่อนข้างดี เนื่องจากอุปทานเหลือขายมีน้อย ส่งผลให้ระดับราคาขายมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ในช่วง7เดือนที่เหลือคาดว่าจะไม่มีการเปิดตัวของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้