จากรายงานผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย พบว่า อุปทานทั้งหมดในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 มีจำนวนรวมอยู่ที่ 23,584 หน่วย และไม่มีโครงการใหม่เปิดตัวเลยในปี 2560 สำหรับโครงการที่เปิดตัวล่าสุด คือ โครงการลุมพินี พาร์คบีช 2 (Lumpini Park Beach 2) โดยเปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2559 ในจำนวน 124 หน่วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีประมาณ 1,000 – 3,000 หน่วยที่เปิดตัวใหม่ และเราคาดการณ์ว่าอุปทานในอนาคตจะเติบโตขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดเกิดการหยุดนิ่งชั่วคราวจากหน่วยที่ยังไม่ขายของหลายๆโครงการที่มีจำนวนมากกว่า 1,000 หน่วยและปัญหาปริมาณความต้องการที่ลดลง อุปทานคอนโดฯใหม่ๆในหัวหินส่วนใหญ่เป็นโครงการเกรด C ที่มีราคาขายต่อหน่วยต่ำกว่า 3 ล้านบาท ในขณะที่โครงการเกรด A กลายเป็นหน่วยหายาก เนื่องจากพื้นที่พัฒนาริมทะเลเริ่มขาดแคลน
กราฟ 1
ที่มา: ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
กราฟ 2
ที่มา: ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
เมื่อเร็วๆนี้ เขาเต่าได้กลายเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณความต้องการไม่มากและยอดขายเริ่มชะลอตัวลง ดังนั้นจึงมีนักพัฒนาจำนวนไม่มากที่สนใจทำการพัฒนาพื้นที่เขตนี้ สำหรับในช่วงสองปีที่ผ่านมามีเพียงโครงการเดียวที่เปิดตัวไป คือ โครงการเบลล่า คอสต้า (Bella Costa) (323 หน่วย)
กราฟ 3
ที่มา: ไนท์แฟรงค์ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
เขาตะเกียบเป็นพื้นที่ที่มียอดขายสูงสุดในตลาด เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้กับหัวหิน โดยมีตลาดและร้านอาหารทะเลตั้งอยู่มากมาย ด้วยราคาขายที่ถูกกว่าพื้นที่ชะอำได้ทำให้เขาตะเกียบเป็นทำเลที่มีความต้องการมากอีกแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเขาตะเกียบถูกพัฒนาเกือบเต็มพื้นที่ (คล้ายๆกับหัวหิน) พื้นที่ดินส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาและฟื้นฟู ในขณะเดียวกัน เขาเต่าเป็นทำเลที่มีความต้องการต่ำและมียอดขายน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นทำเลห่างไกลกรุงเทพฯและเมืองหัวหินมากที่สุด พื้นที่นี้ค่อนข้างชนบทหากเทียบกับพื้นที่อื่นๆในหัวหิน
กราฟ 4
ที่มา: ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โดยรวมแล้ว ตลาดคอนโดฯในหัวหินมีอัตราขายสะสมอยู่ที่ร้อยละ 77.9 ในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77 ในช่วงสิ้นปี 2559 โดยมีประมาณ 221 หน่วยที่ขายออกไปตั้งแต่ช่วงต้นปี 2560
กราฟ 5
ที่มา: ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
อัตราการครอบครองพื้นที่ต่อปีค่อนข้างทรงตัวดีในช่วงปี 2556 – 2558 โดยในปี 2559 มียอดขายลดลง จากจำนวนเฉลี่ยต่อปี 2,400 – 2,800 หน่วย สามารถขายออกไปเพียง 1,800 หน่วย ซึ่งเป็นผลพวงจากปัญหาหลากหลาย เช่น นโยบายการจำนองที่เข้มงวดขึ้นจากธนาคารรายย่อย อย่างไรก็ตาม มร.แฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในขณะนี้นักพัฒนาบางรายกำลังทำโครงการขายเพื่อการลงทุนที่น่าสนใจบนพื้นที่ชายหาด ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับตลาดและผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนไปพร้อมกับการได้รับสิทธิการพักผ่อนอีกด้วย”