ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทยร่วมกับไพรเวทแบงค์กิ้ง ธนาคารกสิกรไทยเปิดโอกาสใหม่ให้กับลูกค้าธนาคารกสิกรไทยสร้างความมั่งคั่งด้านการลงทุนในอสังหาฯสุดหรูในเมืองลอนดอน ที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยในงานนี้ตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำด้านการให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจรของไนท์แฟรงค์ประเทศไทย และธนาคารกสิกรไทยในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารความมั่งคั่ง
ข้อมูลที่น่าสนใจและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดอสังหาฯถูกรวบรวมไว้ในรายงานความมั่งคั่งประจำปี 2560 ฉบับล่าสุดที่จัดทำโดยไนท์แฟรงค์ โดยในรายงานดังกล่าวทำการสำรวจข้อมูลมหาเศรษฐีจากทั่วโลก ข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกนำเสนอในงาน ” ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย & ธนาคารกสิกรไทย: รายงานความมั่งคั่งประจำปี 2560: อสังหาริมทรัพย์และการศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร” ซึ่งจัดขึ้นสำหรับลูกค้าธนาคารกสิกรไทยโดยเฉพาะที่สำนักงาน สาขาพหลโยธิน นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานจะยังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางเปิดประสบการณ์เยี่ยมชมอสังหาฯสุดหรูในเมืองลอนดอน รวมทั้งเยี่ยมชมโรงเรียนระดับโลกหลายแห่ง ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2560
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “สำหรับงานเปิดตัวรายงานความมั่งคั่งทั่วโลกครั้งที่ 11 ของไนท์แฟรงค์ในวันนี้ ได้ติดตามและรวบรวมกลุ่มมหาเศรษฐีจาก125 เมืองใน 89 ประเทศทั่วโลก โดยจำนวนของกลุ่มอภิมหาเศรษฐี (UHNWIs) ที่มีทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ มีการเพิ่มขึ้นถึง 6,340คนในปี 2559”
ในระดับภูมิภาค ทวีปอเมริกาเหนือจะยังคงเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของกลุ่มอภิมหาเศรษฐีในปี 2569 ด้วยจำนวนมากถึง95,860 คน อย่างไรก็ตาม ทวีปเอเชียก็เริ่มมีจำนวนอภิมหาเศรษฐีมากตาม ในปัจจุบัน ทวีปเอเชียมีอภิมหาเศรษฐีน้อยกว่าในทวีปอเมริกาเพียง 27,020คน ไม่เกินปี 2569 ช่องว่างนี้จะลดลงโดยเหลือเพียง 7,680 คน นอกจากนี้ ทวีปเอเชียยังมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนอภิมหาเศรษฐีสูงกว่าในทวีปยุโรปในช่วง10 ปีข้างหน้า โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 91 ในเอเชีย เทียบกับเพียงร้อยละ 12 ในยุโรป
ในระดับเมือง หลายเมืองในประเทศสหรัฐฯและประเทศจีนถูกจัดอยู่อันดับต้นๆในด้านของการเพิ่มขึ้นของจำนวนอภิมหาเศรษฐี โดยประเทศสหรัฐฯถูกจัดอยู่ในอันดับสูงสุดด้วยจำนวนอภิมหาเศรษฐีในเมืองนิวยอร์กที่มีมากถึง 7,722คน และด้วยจำนวนอภิมหาเศรษฐีในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น (คาดการณ์การเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 140 ในระดับประเทศ) เมืองเซี่ยงไฮ้และเมืองปักกิ่งคาดว่าจะมีจำนวนใกล้เคียงกับในสหรัฐฯ
ตาราง 1 : 10 อันดับ การกระจายความมั่งคั่งโดยแบ่งตามเมือง (จำนวนอภิมหาเศรษฐี 2559, 2569)
ดัชนีความมั่งคั่งของเมืองแสดงให้เห็นว่าเมืองลอนดอนมีการคะแนนโดยรวมนำหน้าเมืองนิวยอร์กด้วยคะแนนสูงสุดทั้งด้านการลงทุนและการเดินทางเชื่อมต่อ ในขณะที่เมืองนิวยอร์คยังคงมีคะแนนนำในด้านความมั่งคั่งทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เมืองลอนดอนเป็นเมืองจากยุโรปเพียงแห่งเดียวใน 10 อันดับ โดยเมืองทั้งหมดในยุโรปมีคะแนนต่ำกว่าทางด้านความมั่งคั่งในปัจจุบันและในอนาคต นอกจากนี้ เมืองลอนดอนยังเป็นเมืองที่เหล่าคนรวยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ตาราง 2 : ดัชนีความมั่งคั่งของเมืองปี 2560 โดยไนท์แฟรงค์
ตลาดอสังหาฯในเมืองลอนดอนมีศักยภาพด้านการลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่มีระบบการเงินที่มั่นคงและโครงสร้างพื้นฐานที่ดี รวมถึงโครงการสร้างทางรถไฟแบบครอสเรล (Cross rail) ในอนาคตซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2562 จะช่วยเพิ่มการเดินทางเชื่อมต่อไปยังเซนทรัล ลอนดอน (Central London) อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง, การแล้วเสร็จของทางรถไฟแบบครอสเรลที่จะใกล้เข้ามา, ตลาดของผู้ซื้อ (เนื่องจากปัจจัย Brexit สามารถนำมาใช้ในการต่อรองราคาได้ทุกเมื่อ) และราคาที่ลดลงในตลาดอสังหาฯรีเซล ยังทำให้เมืองลอนดอนยังมีศักยภาพด้านการลงทุนสูงที่สุด
ภายในงาน ลูกค้าไพรเวทแบงค์กิ้ง ธนาคารกสิกรไทยจะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มราคาอสังหาฯในเมืองลอนดอนช่วงหลัง Brexit และข้อมูลเกี่ยวกับการเจรจาและผลกระทบจาก Brexit และหาคำตอบให้กับคำถามที่ว่าเมืองลอนดอนเป็นเมืองที่ปลอดภัยและควรค่าแก่การลงทุนหรือไม่ในขณะนี้ นอกจากนี้ เมืองลอนดอนยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาของกลุ่มเศรษฐีชาวไทย (HNWI) อย่างไรก็ตามการร่วมมือกันกับธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ เราจะช่วยลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยในการหาโอกาสที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขาอย่างดีที่สุด ทั้งช่วยให้ลูกค้าเพิ่มโอกาสการลงทุนเพื่อความสำเร็จในระยะยาวอีกด้วย นอกจากนี้ภายในงาน ธนาคารกสิกรไทยจะร่วมแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเศรษฐีชาวไทยที่สนใจในการเลือกโรงเรียนในเมืองลอนดอนให้กับบุตรหลานของตน