‘แทรมขอนแก่น’ไม่รอภูเก็ต ปักธงรถไฟฟ้าสายแรกตจว

สัปดาห์นี้ไปดูรถไฟฟ้าขอนแก่น ที่คนขอนแก่นได้ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ และร่วมกันแก้ไขปัญหา ศึกษาใหม่เพิ่มเติมปรับสถานีเพิ่ม คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างกลางปี 63 แล้วเสร็จกลางปี 65

2 สัปดาห์ติดๆ ที่พาไปล่องใต้ อัพเดทรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ตหรือ “แทรมภูเก็ต” กับแอ่วเมืองเหนือ@เชียงใหม่ ติดตามความคืบหน้า “แทรมเชียงใหม่” กันไปแล้ว วันนี้จะพาไปไหนดี?? ก็ขอนแก่นไง… จะที่ไหนล่ะ!! ดูรถไฟฟ้าขอนแก่นเด้อค่ะเด้อ!! โครงการไปถึงไหนแล้ว ตามไปดูกันเล้ยย!!

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนว่าด้วยการรายงานทบทวนผลการศึกษาโครงการก่อสร้างระบบขนส่งสาธารณะในเขต จ.ขอนแก่น (รถไฟฟ้ารางเบาหรือแทรมขอนแก่น) เส้นทางนำร่องสายสีแดง (สำราญ-ท่าพระ) ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ หรือ KICE จ.ขอนแก่น ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกับอีก 4 เทศบาลในพื้นที่ดำเนินโครงการร่วมกันในรูปของบริษัทขอนแก่น ทรานซิส ซิสเต็ม จำกัด (เคเคทีเอส:KKTS ) โดยมีผู้เกี่ยวข้องและชาวขอนแก่นเข้าร่วมจำนวนมาก

ผวจ. ขอนแก่น บอกว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในการรายงานผลการศึกษาของโครงการฯ และสรุปส่งให้กับคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก หรือ คจร. ตามขั้นตอนต่อไป สำหรับเงินทุนในการก่อสร้างนั้นไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่เป็นการระดมทุนของผู้ที่มีจิตใจในการที่จะพัฒนาจังหวัด ตามกลไกของตลาดหลักทรัพย์และตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป

“รถไฟฟ้าขอนแก่นถือเป็นเมกกะโปรเจคท์(โครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนเกิน 1 พันล้านบาท ) ที่คนขอนแก่นได้ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ และร่วมกันแก้ไขปัญหา ด้วยวิธีการที่คิดได้ คิดเป็น และคิดดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพื้นที่และต่อยอดไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน” นายสมศักดิ์ ยืนยันถึงพลังของชาวขอนแก่นที่จะผลักดันโครงการนี้

คจร. เห็นชอบให้ท้องถิ่นคือจังหวัดขอนแก่น เป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการรถไฟฟ้าขอนแก่นเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 61 แตกต่างจากโครงการรถไฟฟ้าภูเก็ตและรถไฟฟ้าเชียงใหม่ ที่ครม.มอบหมายการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ดำเนินการ โดยคจร. อนุมัติให้พัฒนาเส้นทางสายสีแดง (สำราญ-ท่าพระ) ระยะทาง 22.8 กม. มูลค่าลงทุน ราว 2.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัท KKTS จะเป็นหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อน

อย่างไรก็ตามโครงการนี้ต้องใช้พื้นที่ศูนย์วิจัยข้าวขอนแก่น 200 ไร่ ของกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อ ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง หรือเดปโป้: Depot รวมทั้งพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit Oriented Development: TOD) ซึ่งยังติดปัญหาในการขอใช้พื้นที่ ทางผู้เกี่ยวข้องเตรียมเสนอที่ประชุมคจร. ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานให้ช่วยผลักดันไปที่กระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้โครงการไร้อุปสรรคกีดขวาง

ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวีจำกัด (มหาชน) หรือ CHO ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง (เคเคทีที) จำกัด ที่แสดงตัวร่วมปะมูลและร่วมลงทุนโครงการนี้ บอกว่า ที่ประชุมได้นำรายละเอียดผลการศึกษาที่ได้ทบทวนผลการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่เคยมอบให้มานำเสนอ เพื่อนำข้อคิดเห็น มาประกอบจัดทำรายงานฯ เสนอคจร. พิจารณาต่อไป

สำหรับสาเหตุที่ต้องศึกษาใหม่ เพราะผลการศึกษาเดิมทำไว้นานแล้วตั้งแต่ปี 59 จึงต้องรีวิวซ้ำอีกที เพราะการเจริญเติบโตของ จ.ขอนแก่นเปลี่ยนไป เบื้องต้นผลการศึกษาส่วนใหญ่เหมือนเดิม มีปรับสถานีเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องที่ดินของศูนย์วิจัยข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะใช้ทำเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงนั้น เจรจาขอใช้พื้นที่เรียบร้อยแล้ว เตรียมลงนามร่วมกันเร็วๆ นี้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างกลางปี 63 แล้วเสร็จกลางปี 65

พิกัดเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบาสายสีแดง (สำราญ-ท่าพระ) ตามผลการศึกษาฉบับใหม่ มีระยะทาง ยาวขึ้นเป็น 26 กม. จำนวน 20 สถานี จากเดิม 22.8 กม. มี 16 สถานี เป็นสถานีระดับดิน 12 สถานี และสถานียกระดับ 8 สถานี มีเดปโป้อยู่ภายในศูนย์วิจัยข้าว แนวเส้นทางที่เพิ่มขึ้นจะเข้า มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) 1.8กม. และเข้าศูนย์วิจัยข้าวขอนแก่น 1.3 กม. ใช้งบประมาณรวม 22,102 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 16,865 ล้านบาท. ค่าโดยสารเบื้องต้นผลการศึกษาระบุว่าราคาเริ่มต้นสถานีแรกที่ 15 บาท ไปจนถึง 25 บาทตลอดสาย ขณะที่คาดการณ์ปริมาณผู้ใช้บริการต่อวันอยู่ที่ 60,000 เที่ยว

แทรมขอนแก่นปรับแผนก่อสร้างและเปิดบริการมาอย่างต่อเนื่อง เคยวางแผนก่อสร้างกลางปี 62 ล่าสุดปรับใหม่จะตอกเข็มกลางปี 63 สร้างเสร็จเปิดบริการกลางปี 65 ขณะที่รฟม.ประกาศว่าจะผลักดันแทรมภูเก็ตให้เป็นรถไฟฟ้าสายแรกจะเริ่มก่อสร้างปี 63 เสร็จปี 67 ส่วนแทรมเชียงใหม่เลื่อนเปิดบริการจากปี 67 เป็นปี 70

ถ้าชาวขอนแก่นทำได้จริงตามนี้!! จะปักธงรถไฟฟ้าสายแรกของต่างจังหวัดได้สำเร็จ…..ต้องช่วยลุ้น!!

ที่มา : www.dailynews.co.th

คอลัมน์ : มุมคนเมือง
โดย “เทียนหยด”