ยังไม่ทันนำร่อง “ภูเก็ตโมเดล” ให้เป็นจังหวัดแรก ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามที่กระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา มีแนวคิดจะเริ่ม 1 ต.ค.นี้ ได้มีผู้เกี่ยวข้องในวงการแพทย์ ออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วย เกรงว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดรอบสองในไทย ถือเป็นความเสี่ยงที่ทำให้คนไทยหวาดผวา หรือหลายคนมองว่า ตอนนี้จะอดตายกันแล้ว หากไม่เดินหน้าทำอะไร เพื่อปากท้องคนไทย
แนวทางในการจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในรูปแบบ “ภูเก็ตโมเดล” จะเป็นอย่างไร? นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนหารือในรายละเอียดอย่างรอบคอบ ซึ่งต้องรอศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. ชุดใหญ่ ทำการพิจารณาอีกครั้ง ภายหลังได้เห็นชอบในหลักการไปแล้ว โดยเป็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจำกัด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยที่ต้องพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ต้องทำให้คนไทยและคนภูเก็ต มั่นใจว่าจะไม่มีการระบาดของเชื้อโควิดซ้ำ ขอยืนยันไม่ได้เร่งรีบเปิดประเทศ และขณะนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเมืองไทย เนื่องจากยกเลิกวีซ่าไปทั้งหมด
ส่วนเหตุผลที่เลือกภูเก็ต เป็นการนำร่อง “ภูเก็ตโมเดล” เนื่องจากเป็นพื้นที่ปิด และเป็นเมืองที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวในระดับสูง โดยจะเริ่มจากระยะทดลอง ก่อนเข้าสู่ระยะขยายผล และเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างจำกัด ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาจะต้องเป็นประเทศมีความปลอดภัยปลอดโควิด และเมื่อเข้ามาประเทศไทยต้องมีมาตรฐานในการกักตัวเช่นเดียวกับคนไทย และเช่นเดียวกับทั่วโลกในการกักตัว 14 วัน ทำให้โอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดต่ำที่สุด แต่เชื่อว่าไทยสามารถรับมือได้ เนื่องจากภูเก็ตเป็นพื้นที่ปิด
“ต้องสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายในการรับมือ จะไม่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิดซ้ำสอง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภูเก็ต หรือพื้นที่ใดๆ เพราะไม่ใช่จะรับนักท่องเที่ยวจากประเทศไหนก็ได้ ต้องเป็นประเทศที่ไม่มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 27 วัน ตามข้อเสนอของสมาคมแอตต้า ยกตัวอย่างจีน ไม่ได้เปิดรับคนที่มาจากเซี่ยงไฮ้ แต่จะเปิดรับเป็นบางมณฑลที่มีการติดเชื้อโควิดค่อนข้างต่ำ และต้องมีใบรับรองตรวจโควิด มีการซื้อประกัน ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้ม”
สำหรับแนวคิดที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้ ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ฤดูการท่องเที่ยว อาจเป็นช่วงเดือน พ.ย.และ ธ.ค. ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวจากเอเชีย ขณะนี้ยังไม่มั่นใจจะเปิดรับเข้ามาได้หรือไม่ โดยเฉพาะคนจีนที่เคยเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เนื่องจากมีระยะเวลาท่องเที่ยวเพียงสั้นๆ การจะต้องกักตัว 14 วัน อาจทำให้ตัดสินใจเดินทางยากขึ้น เนื่องจากมีระยะพำนักสั้นไม่สะดวกกักตัว 14 วัน
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังสามารถเข้ามาเมืองไทยโดยผ่านบริษัทไทยแลนด์ ลองสเตย์ ซึ่ง ททท.ถือหุ้น 30% หรือผ่านบริษัทอื่นๆ ซึ่งต้องกักตัวเอง 14 วัน ใน Alternative Statequarantine หรือกักตัวอยู่ในห้องของโรงแรมที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล และเมื่อครบ 14 วัน สามารถเดินทางภายในจังหวัดได้ แต่หากต้องการเดินทางข้ามจังหวัด ต้องกักตัวอีก 7 วัน รวมเป็น 21 วัน
พร้อมยืนยันการเข้ามาของต่างชาติขณะนี้ยังเป็น 3 รูปแบบในลักษณะท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, ผู้ถือบัตรสมาชิก ไทยแลนด์ อีลิท การ์ด และต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย เท่านั้น โดยยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ว่าชาติใดๆ เข้ามาแม้แต่คนเดียว.
ที่มา : www.thairath.co.th
