ให้ต่างด้าวซื้อคอนโด 99% รัฐขยับปลดล็อกอสังหาดึงเงินเข้าประเทศ

1900

โควิดกดดันรัฐขยับปลดล็อกต่างด้าวซื้อคอนโดและบ้านจัดสรรในสัดส่วนสูงถึง 99% แต่ยังสงวนสิทธิ์การโหวตนิติบุคคล ช่วยระบายสต็อกคงค้างอื้อซ่าเพื่อนำเม็ดเงินเข้ามาช่วยฟื้นเศรษฐกิจในประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมี นายสุพัฒนพงศ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงพลังงาน เป็นผู้รับผิดชอบนำเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่เพื่อสู้ภัยโควิดรอบที่ 3 ให้ได้ ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีขึ้น จำเป็นต้องปลดล็อกมาตรการต่างๆที่อาจเป็นการปิดกั้นการเข้ามาลงทุนของต่างชาติในรูปแบบต่างๆ รวมถึงให้พิจารณาเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการนำเม็ดเงินเข้ามาลงทุนโดยตรงเพื่อให้เกิดการจ้างงาน และรายได้แก่คนไทยด้วย

หนึ่งในมาตรการปลดล็อกกฎหมาย และมาตรการที่เคยเข้มงวดกับการลงทุนของต่างชาติก็คือ การแก้ไขพระราชบัญญัติ และหรือพระราชกำหนดว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยเฉพาะประเด็นการถือครองหุ้น ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม อาคารชุด หรือ หมูบ้านจัดสรร ต้องไม่เกิน 49% ที่เหลือ 51% ต้องเป็นของนักลงทุนผู้มีสัญชาติเชื้อชาติไทย
ก่อนหน้านี้ นายสุพัฒน์พงศ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ และ รมว.กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังศึกษาแนวคิดให้มีการปลดล็อกมาตรการคุมเข้มการลงทุนของต่างชาติหลายด้าน อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ยังไม่มีข้อยุติ เนื่องจากแพร่ระบาดระลอกสาม รัฐบาลต้องระดมสรรพกำลังไปร่วมแก้ปัญหากับบุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่คณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจยังคงรอคอยอย่างใจจดใจจ่อเพื่อให้นายกฯเรียกประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมมีข้อเสนอให้รัฐบาลปลดล็อกต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยได้ชั่วคราว 3-5 ปี โดยอนุญาตให้ซื้อคอนโดมิเนียมได้ในสัดส่วน 70-80% จากปัจจุบันไม่เกิน 49% ส่วนสิทธิการออกเสียงในนิติบุคคลอาคารชุดยังคงกำหนดไว้เท่าเดิมคือ 49%

สำหรับบ้านพักอาศัย ให้สิทธิในการเช่าระยะยาว 50 ปี+40 ปี รวมเป็น 90 ปีจากเดิมที่เคยยินยอมให้มีการต่ออายุการเช่า 30 ปี ไปอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปี อย่างไรก็ตาม ยังมีการจำกัดสัดส่วนการซื้อบ้านอยู่อาศัยในโครงการต่างๆได้ไม่เกิน 49% ของโครงการเหมือนเดิม และเงื่อนไขนี้ให้สิทธิเฉพาะบ้านราคา 10-15 ล้านบาทขึ้นไป

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าว ยังไม่อาจตอบโจทย์แก่ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ ด้วยเหตุที่ผู้จองซื้อจำนวนหนึ่งถูกปฏิเสธการให้กู้ยืมเนื่องจากเกิดโควิดรอบที่สอง และสาม ในขณะที่ผู้จองซื้อที่เป็นชาวต่างชาติต้องเดินทางกลับประเทศ และจำเป็นต้องยอมให้ผู้ประกอบการยึดเงินจองไป เพราะเดินทางกลับมาไทยไม่ได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการมียอดสินค้าทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านพักอาศัยเหลือมาถึง 43% ในปีที่ผ่านมา นี่เป็นเหตุให้ผู้ประกอบการตัดสินใจปรับลดราคาสินค้าของพวกเขาลงมาก กว่า 40-50% เพื่อปิดโครงการนั้นๆและมีเงินทุนเหลือพอจะไปลงทุนทำโครงการที่ตอบโจทย์กำลังซื้อที่ลดลงอย่างมากในช่วงของการเกิดการระบาดของโควิดรอบที่ 3

ข้อเสนอที่ถูกส่งไปยังรัฐบาลล่าสุด ภายใต้ความเห็นของสถาบันการเงินเจ้าหนี้ และผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายเก่า และรายใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกเป็นแสนๆ ตร.เมตร และหลายหมื่นยูนิตในช่วงผลกระทบจากโควิดจน ถึงปี 2567 ก็คือ ขอให้รัฐบาลพิจารณาแก้กฎหมายให้ต่างชาติสามารถลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้ในสัดส่วน 99% ทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรในโครงการ แต่ไม่ให้มีสิทธิมีเสียงในการโหวตของนิติบุคคลอาคารชุด หรือบ้านจัดสรร

ข้อเสนอดังกล่าวเป็นไปเพื่อแก้ปัญหาให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆที่หากปล่อยไว้ อาจส่งผลกระทบต่อบรรดาสถาบันการเงิน และธนาคารพาณิชย์ที่ปล่อยกู้ ให้ค่อยๆหมดสภาพความแข็งแกร่งลง ขณะที่ธนาคารเจ้าหนี้ไม่ต้องการยึดทรัพย์สินมาขายทอดตลาดให้เป็นภาระเหมือนในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง

ที่มา : www.thairath.co.th

Advertisement
Haus23
Haus23
Haus23